head prakardsod




































































แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 48
1
หากฟันน้ำนมผุสามารถจัดฟันเด็กได้หรือไม่
 
การเกิดฟันผุในเด็กนั้น ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของเด็กไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เพราะฟันของเด็ก จะต้องอยู่กับเด็กไปตลอดชีวิต การที่พ่อแม่ผู้ปกครอง ใส่ใจในเรื่องของฟันของบุตรหลานของท่านนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะเป็นการปลูกฝังให้เด็กรู้จักวิธีการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกต้อง แต่ในปัจจุบันนั้น เด็กมีการเกิดฟันผุมาก ซึ่งฟันผุก็สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ฟันน้ำนมผุ

ก็มีผลมาจากการเลี้ยงดูของครอบครัว นอกจากนี้ การเกิดปัญหาฟันน้ำนมผุในเด็ก ยังอาจเกิดได้จากโครงสร้างของฟันเด็กที่ไม่สมบูรณ์ รวมทั้งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กยุคนี้ฟันผุง่ายก็คือ การรับประทานขนมตามใจชอบ แล้วไม่ยอมแปรงฟันนั่นเอง  ประกอบกับการที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนมักมีความเชื่อผิดๆ ว่า เดี๋ยวฟันน้ำนมก็ต้องหลุดไป มีฟันแท้มาแทนที่ จึงไม่ได้ใส่ใจการรับประทานขนมและสุขภาพช่องปากและฟันของลูกมากนัก

จึงทำให้ฟันผุได้ง่ายนั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่า ปัญหาฟันผุในเด็ก หากไม่ได้รับการรักษาอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อตัวเด็กในอนาคตได้ และถ้าเด็กเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ไม่ได้ จะต้องส่งผลต่อบุคลิกภาพของเด็กอย่างแน่นอน  ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะดูแลเอาใจใส่ ทั้งในเรื่องของการเลือกรับประทานอาหารและวิธีการทำความสะอาดช่องปากและฟันของเด็ก เพื่อให้เด็กลดความเสี่ยงของการเกิดฟันผุได้

ซึ่งในปัจจุบันต้องบอกว่าในวงการทันตกรรมของเรามีนวัตกรรมใหม่เพิ่มขึ้นมามากมายและเด็กก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้แล้ว ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มากต่อตัวเด็กในระยะยาว โดยการจัดฟันในเด็กสามารถจัดฟันได้ตั้งแต่เด็กที่มีอายุ4-15 ปี หรือในวัยที่เด็กกำลังมีฟันแท้งอกขึ้นมา การจัดฟันในเด็กก็สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันล้ม หรือแม้กระทั่งเด็กที่มีการสบฟันที่ผิดปกติก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันในเด็ก
 
พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนอาจจะมีคำถามว่าถ้าหากเด็กมีฟันน้ำนมผุจะสามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้หรือไม่ ซึ่งวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงการที่เด็กมีฟันผุและอยากจะเข้ารับการจัดฟันในเด็กว่าจะต้องมีวิธีการอย่างไร ก่อนอื่นพ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการตรวจฟันกับทันตแพทย์เพื่อทำการแก้ไขปัญหาต่างๆและจะได้ประเมินช่องปากเบื้องต้น ก่อนเข้ารับการจัดฟันในเด็ก


ซึ่งคำถามก็คือเด็กที่มีฟันน้ำนมผุ สามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้หรือไม่ ข้อนี้ตอบเลยว่าสามารถเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้และเหมาะสมมากเลยทีเดียว เพราะการที่เด็กมีฟันน้ำนมผุและยิ่งถ้าหากสูญเสียฟันน้ำนมก่อนวัยอันควร การจัดฟันในเด็กจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันที่อาจจะงอกขึ้นมาในลักษณะที่มีความผิดปกติได้ ซึ่งการจัดฟันในเด็กจะช่วยทำให้ฟันแท้ สามารถงอกขึ้นมาในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ 


ช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับฟันซ้อนเก หรือภาวะฟันแท้หายที่เกิดจากการที่ฟันน้ำนมหลุดก่อนวัยอันควร ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ต้องกังวลว่าบุตรหลานของท่านจะมีฟันน้ำนมผุจนไม่สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ ซึ่งข้อนี้บอกเลยว่า เด็กที่มีฟันน้ำนมผุและหลุดก่อนวัยอันควรเหมาะสมมากที่จะเข้ารับการจัดฟันในเด็กเพื่อที่จะทำให้เด็กมีฟันแท้ที่งอกออกมาครบ 32 ซี่และยังช่วยแก้ไขปัญหาฟันในเรื่องต่างๆได้อีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้เด็กมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่เด็ก มีรอยยิ้มที่สดใส สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และยังช่วยเสริมสร้างในเรื่องของพัฒนาการของเด็กได้เป็นอย่างดี
 
ดังนั้น หากเด็กมีปัญหาฟันผุหรือความผิดปกติที่เกี่ยวกับรูปร่างฟัน ก็ควรพาเด็กเข้าพบทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อให้เด็กเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้เด็ก มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อยได้ หากใครสนใจ พาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก หรือเข้าตรวจฟันเบื้องต้น ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิก เพื่อที่จะได้ให้เด็กมีสุขขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรงตั้งแต่เนิ่นๆ ลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาสุขภาพฟัน และยังช่วยทำให้เด็กได้ทีพัฒนาการที่ดีขึ้น มีรอยยิ้มที่สดใส สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

2
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


3
รถรับจ้างขนย้ายบ้าน รถรับจ้างขนของเกาะสมุย ที่ให้บริการใกล้บ้านคุณพร้อมบริการ 24ชั่วโมง

สำหรับคนที่มีใจรักการเดินทางไม่ควรพลาด รถรับจ้างขนของเกาะสมุย อย่างทีมงาน รถกระบะรับจ้างขนของราคาถูก มีที่เที่ยวน่าแนะนำแก่นักเดินทางพร้อมมีบริการรถกระบะรับจ้างขนของ ที่ขนย้ายของทุกจังหวัดไม่พลาดที่จะแวะไปกินของดี ไปเที่ยวที่ดีๆ  ทุกจังหวัด และอยากจะแนะนำสำหรับคนที่ต้องการจะเดินทางมาเกาะสมุย

เที่ยวเกาะสมุย เป็นเกาะขนาดเล็ก แต่มากล้นไปด้วยกลุ่มนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติ สถานที่แห่งนี้เป็นหมู่เหาะขนาดเล็ก แต่มีมนเสน่ที่ทุกคนหลงรักในการมาสัมผัสกับสิ่งที่สวยงาม และบรรยากาศที่ครื้นเครงเหมาะกับทุกเพศทุกวัน

ไม่แปลกที่รถรับจ้างขนของอย่างเรา ที่ทำการขนย้ายบ้านในเกาะสมุย ย้ายของเกาะสมุยมาต่างจังหวัด หรือ ขนย้ายของจากต่างจังหวัดมาเกาะสมุยเป็นสถานที่ที่ขนย้ายมากสุด เพราะ ลูกค้าส่วนมากจะ มาอาศัยอยู่ที่เกาะสมุย มาหางานทำ และมาใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่เกาะนี้ ขนาดเป็นเรา ยังตกหลุมรัก ที่เกาะสมุยเลย เราขนย้ายทุกวัน มาส่งของทุกครั้งไม่เคยเบื่อ

อีกอย่างที่ไม่แพ้กัน ก็ที่พัก ราคาถูก มีหลายที่ โดยราคาเริ่มต้นที่ 1000บาทขึ้นไป รับรองว่า ดีแน่นอน พร้อมกับได้บรรยากาศที่ดีอีกด้วย จะมาเป็นคู่ก็โลแมนติก จะมาเดี่ยวก็ได้ฟิว จะมาครอบครัวก็เน้นความอบอุ่น

ดังนั้น ทีมงานรถรับจ้างขนของ ก็อยากจะแนะนำในส่วนของเกาะสมุย เพราะช่วงนี้คนจะเช็คอินกันเยอะ นักท่องเที่ยวก็สะพัด  ของขายมากมาย ถ้ามีเวลาหรือมีวันหยุด แนะนำให้มานะค่ะ แต่ถ้าใครที่มาแล้วต้องการ จะหาที่พักใหม่ เราเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับ การบริการ ขนย้ายของ ถ้าจะขนย้ายของไปที่พัก ขนย้ายมอเตอร์ไซค์เสีย ขนย้ายตู้เย็น ขนย้ายเสื้อผ้าขนย้ายกระเป๋าเดินทาง จำนวนจะมากหรือไม่มากก็ตาม รถรับจ้างขนของอย่างเรา ก็พร้อมบริการ อย่างเต็มที่


การประกันสินค้า มีให้หรือต้องจ่ายเพิ่ม

อันนี้ก็เป็นอีก 1 คำถาม ที่ทุกคนต่างสอบถามกันมามาก ทีมงานรับรับจ้าง ขอแจ้ง ตรงนี้ว่า ถ้าในส่วนของการว่าจ้างรถรับจ้างขนของเกาะสุมย รถรับจ้างย้ายบ้าน หรือรถขนส่ง ของเรา จะมีบริการในส่วนของการรับประกันของสินค้าที่ขนย้าย หากเกิดการชำรุด หรือมีรอยขีดข่วนรอยบุบ ทางเราจะ มีประกันสินค้า ตามมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั่นเองค่ะ

ลูกค้าสามารถสบายใจได้เลยนะคะ ในส่วนของตรงนี้ ถึงยังไงก็ตาม การบริการขนของ ไม่ว่าจะ
รถกระบะขนของเกาะสมุย  หรือ รถหกล้อรับจ้างเกาะสมุย ขนย้ายสินค้าจะปลอดภัยทุกชิ้น เพราะ ทุกอย่างของการขนย้ายนั้น จะมีหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะด้วย การยกของใส่รถ การจัดเรียงสินค้าขึ้นรถรับจ้าง จะต้องมีวิธีดูว่าของชิ้นไหนควรวางก่อน วางหลัง หรือของชิ้นไหนสามารถซ้อนกันได้

รถ 6 ล้อรับจ้างขนส่งอีกทั้งยังต้องดูด้วยว่าจะต้องใช้อุปกรณ์ชนิดไหนที่สามารถ อำนวยความสะดวกแก่การขนย้ายได้ดี มันจะมีวิธีที่ละเอียดอ่อน หากใครไม่รู้แล้วทำการยกอย่างเดียว เพื่อต้องการให้เสร็จ สิ่งที่จะเกิดขึ้น อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้

เมื่อจะจ้างรถรับจ้างที่ดีสัก1คัน ก็ต้องดูหลากหลายแบบ ดังนั้น ลูกค้าสามารถ มั่นใจได้ว่า ทีมงานรถขนของ รถรับจ้าง ยินดีให้บริการทุกงานขนย้าย


4
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/

https://www.noisecontrol365.com/album/banner/851ef947851a952f6558581a8db3a103.jpg

5
ฉีดวัคซีน Covid-19 แล้ว รถรับจ้างราคาถูก รถรับจ้างขนของนนทบุรี คงจะดีขึ้น

ต้องบอกก่อนเลยว่าในช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมา 1 ปีกว่า ในช่วงที่ covid-19 ระบาดอย่างหนัก ทำให้ผู้ใช้บริการ รถรับจ้างขนของนนทบุรี มีความกังวลในการขนย้ายของ ขนย้ายบ้าน ขนย้ายหอ เป็นอย่างมาก แล้วจากต่อนี้ไป เรามีความมั่นใจว่าเมื่อวัคซีนออกมาแล้วและเริ่มมีการฉีดวัคซีนมากยิ่งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 เป็นต้นไปจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นและ ผู้คนออกมาใช้ชีวิตตามปกติมากยิ่งขึ้น

ส่งผลต่อการให้ บริการรถรับจ้างขนของนนทบุรี หรือไม่ว่าจะเป็นรถรับจ้างในเขตปริมณฑลอื่นๆอย่าง รถรับจ้างสมุทรปราการ รถรับจ้างกรุงเทพฯ รถรับจ้างนครปฐม หรือแม้แต่จังหวัดใหญ่ๆอีกมากมาย ซึ่งตลอดระยะที่ผ่านมาการขนย้ายเป็นอย่างยากลำบากมากและเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะผ่านช่วงนี้ไปได้ด้วยดี

ในช่วงที่ผ่านๆมาการให้บริการรถรับจ้างขนของ รถรับจ้างนนทบุรีของเรา

เรายังให้บริการอยู่เป็นปกติทั้ง รถกระบะรับจ้างนนทบุรี และ รถ 6 ล้อรับจ้างนนทบุรี รถรับจ้างขนย้ายบ้านนนทบุรี รถสิบล้อรับจ้างนนทบุรี ถึงแม้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาการให้บริการรถรับจ้างขนของจะซบเซาหรือน้อยลงแต่ การให้บริการรถรับจ้างของเรานั้นยังเต็มไปด้วยประสิทธิภาพและคุณภาพอยู่เช่นเดิม จากที่ผ่านมาในช่วง covid-19 เรามีการปรับลดราคาค่าบริการรถรับจ้างให้กับลูกค้ามาพอสมควรเพื่อให้ลูกค้าที่ประสบปัญหา ในเรื่องของค่าใช้จ่ายหรือรายได้ที่ลดลงสามารถเข้าถึงงานบริการรถรับจ้างขนของนนทบุรีของเราได้ ขณะเดียวกัน ในระหว่างการขนย้ายของเราจะมีการเตรียมแมสปิดปาก หรือหน้ากากอนามัย ไว้คอย support ให้กับลูกค้าทุกคนที่เดินทางไปกับเรา เพื่อ ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ covid19 หรืออย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมร่วมกันห่างไกลจากภัยโรคร้ายนี้


เราจะทำโครงการ แจกหน้ากากอนามัยกับลูกค้าทุกคน

สำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ รถรับจ้างจังหวัดนนทบุรี หรือรถรับจ้างขนของจังหวัดอื่นๆที่มาใช้บริการกับรถของเรา เราจะมีการป้องกันและ ลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อ covid19 โดยการแจกหน้ากากอนามัยให้กับลูกค้าทุกคนที่ติดรถมากับเราซึ่งเป็นหน้ากากที่เรามีการจัดเตรียมแพ็คไว้เป็นอย่างดีให้กับลูกค้าทุกคน และหน้ากากนี้ จะเป็นแบบใช้แล้วทิ้งในแต่ละวันและพนักงานขับรถของเราทุกคนก็จะมีการเปลี่ยนหน้ากากอนามัย ในทุกๆวันเช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแก่ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการจากเรา เราต้องการที่จะเซฟพนักงานคนขับรถเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิค 19 และขณะเดียวกันเราต้องการเซฟลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการกับเราต่างคนต่างป้องกันจะทำให้ลดการแพร่ระบาดของเชื้อ covid19 ได้เป็นอย่างดี


รถรับจ้างนนทบุรีของเราให้บริการในช่วงเวลาไหนบ้าง

ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อ covid19 จะลุกลามแต่การให้บริการของเรายังคงให้บริการอยู่ไม่ขาดโดยให้บริการในทุกๆวันตลอด 24 ชั่วโมงลูกค้าที่ต้องการขนย้ายด่วนไม่ว่าจะเป็นงาน ขนย้ายบ้านนนทบุรี ขนย้ายหอพัก ขนย้ายสำนักงานนนทบุรี ขนย้ายออฟฟิศ ขนย้ายคอนโดนนทบุรี เราก็ให้บริการลูกค้าอยู่เช่นเดิม ทางรถกระบะรับจ้างหรือรถรับจ้างขนาดใหญ่อย่างเช่น รถรับจ้าง 6 ล้อในจังหวัดนนทบุรี และพร้อมที่จะวิ่งให้บริการทั้งในเขตพื้นที่ต่างๆรวมไปจนถึงต่างจังหวัดด้วยเช่นเดียวกัน


การขนย้ายสินค้าด้วยความระมัดระวัง

นี่คือเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเราเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาขนส่ง เราให้บริการการขนย้ายของ ขนย้ายบ้าน ขนย้ายห้อง ขนย้ายคอนโด ขนย้ายอพาร์ทเม้นท์ ควรใช้สินค้าทั่วไปเราให้บริการ ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาทและไม่ทำให้สินค้าของลูกค้าเสียหายเรามีพนักงานยกสินค้าที่มีความชำนาญในการขนย้ายของในทุกชิ้นทุกประเภท และยังบริการด้วยความรวดเร็วมีเวลาที่ มีความแม่นยำต่อการขนย้ายในแต่ละครั้ง รวดเร็วและปลอดภัย

การบรรจุการแพ็คของการยกขึ้นและยกลง จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเราโดยทันทีเพราะที่นี่ให้บริการมาอย่างยาวนาน จึงไม่ทำให้ลูกค้าต้องผิดหวังหรือต้องเสียใจ ที่มาใช้บริการกับเราเรามั่นใจว่าลูกค้าทุกท่าน จะพึงพอใจและให้การสนับสนุนการให้บริการรับจ้างขนของจังหวัดนนทบุรีของเรา

6
ข้อควรรู้ ก่อนการติดตั้งฉนวนกันความร้อนให้อาคาร

เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน อากาศมีอุณหภูมิสูงแทบจะตลอดทั้งปี การติดตั้งวัสดุที่สามารถป้องกันความร้อนไม่ให้เข้ามาในอาคารอย่าง “ฉนวนกันความร้อน” เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้อุณหภูมิภายในตัวอาคารเย็นลง โดยที่ค่าไฟฟ้าไม่บานปลายจากการเปิดพัดลม หรือเครื่องปรับอากาศเพียงอย่างเดียว สำหรับใครที่กำลังคิดจะติดตั้งฉนวนกันความร้อน ได้นำเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฉนวนกันความร้อนมาฝากกัน


ฉนวนกันความร้อนคืออะไร?

ฉนวนกันความร้อน คือวัสดุที่ช่วยกันความร้อนจากอีกฝั่งหนึ่งไม่ให้ส่งผ่านไปยังอีกฝั่ง สกัดความร้อนไม่ให้ส่งผ่านไปยังส่วนอื่น ๆ ของอาคาร มีลักษณะเบา ภายในประกอบด้วยฟองอากาศเล็ก ๆ จำนวนมาก ซึ่งมีคุณสมบัติในการกั้นความร้อนให้อยู่ในฟองอากาศ ตัวอาคารจึงมีอุณหภูมิที่เย็นลงได้

นอกจากนี้ ฉนวนกันความร้อนยังมีหลายประเภทให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม เช่น ฉนวนใยแก้ว (Fiberglass) อลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminium Foil) ฉนวนใยหิน ร็อควูล (Rockwool) ฉนวนกันความร้อนโพลียูรีเทน โฟม (Polyurethane Foam) ฉนวนกันความร้อนโพลีเอธิลีน โฟม (Polyethylene Foam) และฉนวนกันความร้อนโพลีสไตรีน โฟม (Polystyrene Foam) เป็นต้น


การติดตั้งฉนวนกันความร้อนมีกี่แบบ?

วิธีการติดตั้งฉนวนกันความร้อนมีความสำคัญมาก เนื่องจากฉนวนกันความร้อนแต่ละประเภทมีประสิทธิภาพในการกันความร้อนที่แตกต่างกัน ถ้าหากนำมาติดตั้งไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้ฉนวนกันความร้อนทำงานได้ไม่เต็มที่ ฉนวนกันความร้อนสามารถติดตั้งได้ทั้งภายใน และภายนอกตัวอาคาร โดยฉนวนกันความร้อนมีวิธีติดตั้ง 3 แบบคือ

    ติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนฝ้า
    การติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนฝ้าเพดานจะช่วยไม่ให้ความร้อนสะสมอยู่ใต้หลังคา โดยฉนวนกันความร้อนที่ติดตั้งบนฝ้าจะต้องมีความหนา หุ้มด้วยวัสดุที่สามารถกันความชื้นได้ เพื่อป้องกันน้ำที่อาจรั่วซึมลงมาจากหลังคา และต้องมีช่องระบายความร้อนบริเวณชายคาบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนสะสมมากเกินไป โดยฉนวนกันความร้อนที่นิยมนำมาติดตั้งบนฝ้าเพดานคือ พอลิเอทิลีนโฟม พอลิเอทิลีน บับเบิลฟอยล์ พอลิยูรีเทนโฟม และฉนวนใยแก้ว

    ติดตั้งฉนวนกันความร้อนใต้แผ่นหลังคา
    ฉนวนกันความร้อนชนิดนี้มักจะติดตั้งมาพร้อมกับการสร้างบ้าน มีประสิทธิภาพในการกันความร้อนที่ดีมากจึงเป็นวิธีการติดตั้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ช่วยทำให้ความร้อนเข้าสู่ใต้หลังคาน้อยลง โดยฉนวนกันความร้อนที่นิยมนำมาติดตั้งใต้หลังคาคือ ฉนวนใยแก้วแบบแผ่น อลูมิเนียมฟอยล์ พอลิเอทิลีนโฟม โพลียูรีเทนโฟม และพอลิเอทิลีน บับเบิลฟอยล์

    ติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนหลังคา
    ฉนวนกันความร้อนหลังคา สามารถเรียกได้อีกอย่างว่า หลังคากันความร้อน เป็นแผ่นสะท้อนความร้อนซึ่งจะสะท้อนไม่ให้ความร้อนเข้าสู่ใต้หลังคาบ้าน มักจะนำมาใช้เพื่อเสริมการติดตั้งฉนวนแบบอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การติดฉนวนกันความร้อนด้วยวิธีนี้จะทำให้ตัวฉนวนกันความร้อนสัมผัสกับแสงแดดและอากาศโดยตรง จึงอาจทำให้เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น และถ้าหากฝนตกก็อาจทำให้เกิดความสกปรกสะสมได้

การติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อนเป็นวิธีที่มักจะนำมาใช้งานควบคู่กับการติดตั้งฉนวนกันความร้อนประเภทอื่น ๆ เนื่องจากอลูมิเนียมฟอยล์มีหน้าที่ในการสะท้อนความร้อนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ติดตั้งฉนวนความร้อนชนิดโพลียูรีเทนโฟมที่บริเวณใต้หลังคาเพื่อช่วยหน่วงความร้อนไม่ให้ไหลลงสู่เข้าบ้าน ควบคู่ไปกับการติดตั้งแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ ซึ่งเป็นแผ่นสะท้อนความร้อนไม่ให้ความร้อนเข้าสู่ใต้หลังคา เพื่อเสริมให้ความสามารถในการป้องกันความร้อนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งแผ่นสะท้อนความร้อนมีประสิทธิภาพในการสะท้อนรังสีความร้อนได้สูงสุด 97%


เลือกฉนวนกันความร้อนอย่างไร?

การเลือกฉนวนกันความร้อนให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด ควรพิจารณาจากสภาพการนำความร้อน (K) และประสิทธิภาพในการต้านทานความร้อน (R) รวมถึงความหนาของฉนวน

    ค่า K (K-value) คือ สภาพการนำความร้อน หรือ Conductivity มีหน่วยเป็น W/m.k. เป็นค่าที่บอกถึงคุณสมบัติในการนำความร้อนว่ามีมากน้อยเพียงใด ซึ่งถ้าฉนวนกันความร้อนนั้นมีค่าการนำความร้อนที่ต่ำ ความร้อนก็จะผ่านตัวฉนวนเข้ามาที่ตัวบ้านได้น้อยลง
    ค่า R คือ ค่าความต้านทานความร้อนของฉนวน หรือ Resistivity มีหน่วยเป็น m2K/W ซึ่งตัวเลขที่กำกับไว้เป็นตัวบอกว่าฉนวนชนิดนั้นสามารถต้านทานความร้อนที่เข้ามาแค่ไหน ฉนวนที่มีค่า R มาก จะมีความสามารถในการกันความร้อนได้ดี

ดังนั้น ฉนวนกันความร้อนที่ดีจะต้องมีสภาพการนำความร้อนต่ำและมีค่าต้านทานความร้อนสูง หรือให้เข้าใจง่าย ๆ คือ “มีค่า K ต่ำ และ ค่า R สูง” นอกจากนี้ เรื่องของความหนา (Thickness) ก็มีผลต่อความสามารถในการกันความร้อนเช่นกัน โดยฉนวนยิ่งหนาก็ยิ่งมีค่าต้านทานความร้อน (R) ที่สูง จึงยิ่งสามารถป้องกันความร้อนได้ดี แต่ก็ไม่ควรเลือกฉนวนกันความร้อนที่หนามากจนเกินไป


ควรดูแลฉนวนกันความร้อนอย่างไร?

การดูแลฉนวนกันความร้อนสามารถทำได้ด้วยการหมั่นตรวจเช็คสภาพของฉนวนกันความร้อน และพื้นที่โดยรอบว่ามีอะไรชำรุดเสียหายหรือไม่ เพื่อให้สามารถซ่อมแซมได้อย่างทันท่วงที ควรทำความสะอาดทุก 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นที่อยู่ของสัตว์ และแมลงต่าง ๆ นอกจากนี้ยังควรเปลี่ยนฉนวนกันความร้อนใหม่ทุก 10 – 15 ปีตามสภาพการใช้งาน ซึ่งถ้าหากบ้านมีอุณหภูมิความร้อนสูง หรือมีความชื้นมาก ๆ อายุการใช้งานของฉนวนกันความร้อนก็จะน้อยลงไปด้วย


ข้อควรระวังในการติดตั้งฉนวนกันความร้อน

นอกจากรู้วิธีการติดตั้งฉนวนกันความร้อน และวิธีการดูแลรักษาแล้ว ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่ควรรู้ก่อนจะติดตั้งฉนวนกันความร้อน ดังนี้

    พื้นที่ในการติดตั้ง
    ควรคำนวณพื้นที่ในการติดตั้งก่อนจะเลือกซื้อฉนวนกันความร้อนเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงที่สุด ควรเลือกฉนวนกันความร้อนที่มีความหนาประมาณ 6 นิ้ว โดยปกติแล้วฉนวนกันความร้อนจะหนึ่งม้วนจะมีพื้นที่ 2.4 ตารางเมตร โดยประมาณ
    บริเวณที่เกิดความร้อน
    ก่อนติดตั้งฉนวนกันความร้อน ให้สังเกตบริเวณที่มีแสงแดดส่องลงมาสู่ตัวบ้าน ว่าบริเวณไหนเกิดความร้อนมากที่สุด เพื่อให้สามารถลงงบประมาณในการติดตั้งให้ถูกต้อง โดยต้องเลือกฉนวนกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพในการกันความร้อนสูงที่สุด และมีคุณภาพสูงมาติดตั้งในบริเวณที่มีแสงส่องลงมามาก จากนั้นจึงค่อยติดตั้ง และแก้ไขในบริเวณอื่น

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องน่ารู้ของฉนวนกันความร้อนที่ บริษัท ยูเนี่ยน คอนแมท จำกัด นำมาฝาก สำหรับคนที่อยากจะติดตั้งฉนวนกันความร้อนในบ้าน หรืออาคารก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ เพื่อจะได้นำไปเลือกฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสม รับรองว่าคุณจะมีบ้านที่เย็นสบาย ไม่หวั่นเรื่องค่าไฟแม้จะอากาศร้อน และถ้าหากคุณกำลังมองหาฉนวนกันความร้อน เรายินดีให้คำปรึกษา โดยทีมงานมืออาชีพ

7
บริการด้านอาหาร: ต้มจืดมะระยัดไส้ อาหารคลีนไขมันต่ำ!

ในปัจจุบัน คนเราส่วนใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น เพราะการมีสุขภาพดี ก็จะทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ บางคนเลือกรับประทานอาหารเสริม เพราะบางคนอาจจะไม่มีเวลาในการทำอาหาร จึงเลือกรับประทานอาหารเสริมเป็นตัวช่วย ซึ่งเราต้องบอกว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารสดๆดีกว่ารับประทานอาหารเสริมแน่นอน แต่เราจะต้องรับประทานอาหารอย่างถูกต้องคือ เลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 อาหารหมู่

หลายคนเลือกรับประทานอาหารคลีน ที่กำลังได้รับความนิยมมากในหมู่คนรักสุขภาพ และยังเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ด้วยลักษณะเด่นคือการลดกรรมวิธีที่ทำให้อาหารเสียคุณค่าทางโภชนาการ และลดเครื่องปรุงที่เกินจำเป็น อย่างรสเค็ม รสหวาน รสเปรี้ยว และลดวัตถุดิบหมักดอง ซึ่งถือว่าดีต่อสุขาพเป็นอย่างมาก ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการทำเมนูเพื่อสุขภาพ นั่นก็คือ ต้มจืดมะระยัดไส้ ซึ่งเป็นอาหารคลีนที่มีไขมันต่ำ เพราะนอกจากสารอาหารที่ได้จากมะระแล้ว การทานอาหารประเภทซุปร้อน ๆ ยังช่วยให้สมองปลอดโปล่งรู้สึกสดชื่นได้อีกด้วย

สำหรับวิธีการทำก็ง่ายมาก โดยเราจะเริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบได้แก่ มะระ หมูสับ วุ้นเส้น เห็ดหอม รากผักชี พริกไทยเม็ด กระเทียม ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย เกลือ และน้ำเปล่าสะอาด จากนั้นมาถึงขั้นตอนการทำเริ่มจาก ล้างมะระให้สะอาด หั่นแว่นเป็นชิ้นประมาณ 3 นิ้ว จากนั้นพอกด้วยเกลือทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที นำวุ้นเส้นและเห็ดหอมมาแช่น้ำให้นิ่ม และล้างรากผักชีให้สะอาด ปอกกระเทียมแล้วหลังจากนั้น ตำพริกไทยเม็ดให้ละเอียด เมื่อครบเวลา 15 นาที นำมะระที่หมักเกลือไว้ล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดประมาณ 2 – 3 รอบ แล้วพักไว้ให้แห้ง เริ่มโขลกส่วนผสมสามเกลอสำหรับหมักหมู โดยการโขลกรากผักชี 3 รากให้แตก แล้วจึงใส่กระเทียมลงไปโขลกให้ละเอียดพร้อมกันประมาณ 4 กลีบ แล้วเติมพริกไทยลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะโขลกให้เข้ากันอีกครั้ง จะแบ่งส่วนผสมบางส่วนไว้สำหรับการต้มน้ำซุปด้วย จากนั้น นำสามเกลอที่โขลกได้ใส่ลงในหมูสับ เติมซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะคลุกเคล้าให้เข้ากัน หั่นวุ้นเส้นให้เล็กลงแล้วใส่ลงในหมูสับที่หมักไว้คลุกเคล้าอีกครั้งให้เข้ากัน นำมะระที่เตรียมไว้มายัดไส้หมูสับที่ผสมไว้ลงไปแล้วตรงกลางแล้วพักไว้ก่อน

จากนั้น ให้ตั้งหม้อเติมน้ำเปล่าลงไป ด้วยไฟแรง จนน้ำเดือดจัด ใส่รากผักชี กระเทียม และพริกไทยที่แบ่งไว้ลงไป เบาไฟและรอให้น้ำซุปเดือดอีกครั้ง เมื่อเคี่ยวน้ำซุปได้ที่แล้ว จึงเติมซีอิ๊วขาวส่วนที่เหลือลงไป ใส่เห็ดหอมลงไป ต้มต่อให้เดือดอีกครั้ง เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งแล้วจึงนำมะระยัดไส้ที่เตรียมไว้ ใส่ลงไปแล้วทำการเคี่ยวต่ออย่างน้อย 1 ชั่วโมง โดยปิดฝาให้สนิท ไม่คนน้ำซุป และไม่เปิดฝาระหว่างการเคี่ยว จับเวลาจนครบ 1 ชั่วโมงจึงทำการเปิดฝาอีกครั้ง เมื่อครบเวลาเคี่ยวจนน้ำซุปซึมเข้าสู่มะระ และมะระสุกได้ที่ เติมพริกไทยที่เหลือลงไป เพียงเท่านี้ ก็จะได้อาหารคลีนที่ให้ไขมันต่ำ ดีต่อสุขภาพของเราอย่างแน่นอน

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า มะระ เป็นพืชที่มีฤทธิ์เป็นยา และมีสรรพคุณเพื่อการรักษาและบำรุงร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการล้างสารพิษในตับ มีวิตามินในการบำรุงสายตา ช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ด้วยสารชาแรนทิน เป็นตัวยาที่มีส่วนในการป้องกันการกระจายตัวของเชื้อมะเร็งได้ รวมไปถึงในเมนูต้มจืดมะระยัดไส้มีรากผักชีและพริกไทยเป็นส่วนผสมของน้ำซุป รากผักชีมีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะและขับลมได้

สำหรับพริกไทยถือเป็นสมุนไพรที่แก้ปวดท้องได้ และเป็นสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย ทางเราเน้นย้ำมาตลิดว่า อาหารการกินของเรานั้น มีความสำคัญและเราจะต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อที่จะได้ดีต่อสุขภาพของเรา ให้เราสามารถปราศจากโรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย

8
จัดฟันบางนา: ฝังรากฟันเทียม ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ กำหนดตำแหน่งแม่นยำ ลดอันตรายและอัตราการบาดเจ็บ

การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ได้ผลมากที่สุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป ซึ่งในปัจจุบันการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนั้น มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาทำให้ผลการรักษามีอัตราความสำเร็จมากยิ่งขึ้น และเป็นที่น่าเชื่อถือและได้รับความไว้วางใจจากผู้ที่มีปัญหาสูญเสียฟัน ในอดีตการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ยังไม่มีประสิทธิภาพเหมือนกับสมัยนี้เนื่องจากยังไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยและยังมีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นระหว่างการรักษาทำให้การฝังรากฟันเทียมยังไม่เป็นที่ยอมรับ


เนื่องจากมีอัตราความสำเร็จที่น้อย คนจึงนิยมหันไปแก้ปัญหาการสูญเสียฟันด้วยการสวมใส่ฟันปลอมซึ่งถือว่าเป็นที่นิยมมากในอดีต ยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ ยิ่งเป็นที่นิยม เพราะเนื่องจากการสวมใส่ฟันปลอมไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือภาวะแทรกซ้อนที่ได้จากการผ่าตัดเพียงแต่การสวมใส่ฟันปลอมก็ยังแก้ไขปัญหาหรือใช้ในการทดแทนฟันธรรมชาติยังไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากวัสดุที่นำมาใช้ทำฟันปลอมยังมีความแข็งแรงไม่มากพอ เนื่องจากทำมาจากพลาสติกซึ่งง่ายต่อการแตกหัก หากผู้เข้ารับการรักษารับประทานอาหารที่แข็งมากเกินไปและมีการทำความสะอาดที่ยากและยังทำให้มีปัญหาในเรื่องของการรับประทานอาหาร

แต่ในปัจจุบันการทันตกรรมได้ก้าวหน้าไปมาก เนื่องจากมีการพัฒนาถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยในการรักษาและยังสร้างความน่าเชื่อถือและผลการรักษามากยิ่งขึ้นอีกด้วย ด้วยการนำนวัตกรรมเข้ามาวางแผนการรักษา ตั้งแต่ขั้นตอนการสแกนประเมินกระดูกฟัน ด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบว่ากระดูกฟันบริเวณที่จะทำการฝังรากฟันเทียม มีความหนาแน่นมากพอที่จะเข้ารับการผ่าตัดหรือไม่


ทั้งยังช่วยกำหนดจุด ตำแหน่ง ที่จะทำการฝังรากฟันเทียมให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น หากเทียบกับสมัยก่อนการกำหนดจุดหรือตำแหน่งที่ทำการฝังรากฟันเทียมทำด้วยมือเปล่า ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายและเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา ทั้งนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เหงือกอักเสบ เนื่องจากมีบาดแผลที่ใหญ่ แต่นวัตกรรมใหม่นี้จะช่วยลดอันตรายและอัตราการบาดเจ็บจากการผ่าตัดได้ถึง 80% ทั้งหมดนี้คือ นวัตกรรมที่มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมาก ก็ด้วยการพัฒนาของวงการทันตกรรมที่มีการนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยกำหนดตำแหน่งการฝังรากฟันเทียมทำให้มีความแม่นยำและไม่เกิดการคลาดเคลื่อนของตำแหน่งรากฟันเทียมที่จะฝังโดยการใช้ระบบคอมพิวเตอร์

สำหรับขั้นตอนการฝัง รากฟันเทียม ด้วยระบบคอมพิวเตอร์นั้น ทันตแพทย์จะทำการประเมินตำแหน่งที่จะทำการฝังรากฟันเทียม โดยการตรวจช่องปากของผู้เข้ารับการรักษาและจะมีการบันทึกลักษณะภายในช่องปากด้วยเครื่องสแกนเพื่อสร้างแบบจำลองสามมิติ ภาพเอ็กซเรย์ของผู้ป่วยจะถูกนำมาประกอบการวางแผนการรักษา โดยทันตแพทย์จะทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมโดยมีระบบคอมพิวเตอร์ช่วยในการวางแผนล่วงหน้าและกำหนดตำแหน่งรากฟันเทียมได้อย่างแม่นยำ เพื่อลดการคลาดเคลื่อนและการเกิดปัญหาที่จะตามมาภายหลังจากการฝังรากฟันเทียม สำหรับข้อดีของการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ด้วยระบบคอมพิวเตอร์จะป้องกันการเกิดอันตรายต่ออวัยวะสำคัญบริเวณรอบๆรากฟันเทียมและช่วยลดระยะเวลาการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ซึ่งส่งผลให้อาการบาดเจ็บภายหลังจากการผ่าตัดนั้นน้อยลงและมีการฟื้นฟูการสมานของบาดแผลดียิ่งขึ้น และรากฟันเทียมจะฝังอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องแม่นยำ ทำให้การบูรณะครอบฟันบนรากฟันเทียมมีประสิทธิภาพและสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ


นอกจากนี้ทันตแพทย์และผู้เข้ารับการรักษาจะสามารถเห็นภาพและตำแหน่งของรากฟันเทียมล่วงหน้าได้ อย่างไรก็ตามหากคุณสนใจเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝั่งรากฟันเทียมอย่างครบวงจรสามารถติดต่อหรือปรึกษาทางคลินิก\เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่จะคอยให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ รวมถึงสามารถเข้าทำการประเมินช่องปากและฟันได้ก่อนเข้ารับการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้เรายังมีบริการทางด้านทันตกรรมอย่างครบวงจร มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การันตีความสามารถด้วยประสบการณ์อย่างยาวนาน ซึ่งเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้ารับการรักษาได้เป็นอย่างดี

9
หมอประจำบ้าน: ต้อกระจก (Cataract)

ต้อกระจก เป็นภาวะที่แก้วตาหรือเลนส์ตา (lens) ภายในลูกตามีลักษณะขุ่นขาวขึ้นจากปกติที่มีลักษณะโปร่งใสเหมือนกระจก อาจมีลักษณะขุ่นที่ตรงกลาง (nuclear cataracts) หรือขอบ ๆ (cortical cataracts) หรือด้านหลังของแก้วตา (posterior subcapsular cataracts)

เมื่อแก้วตาขุ่นขาวก็มีลักษณะทึบแสง ไม่ยอมให้แสงผ่านเข้าสู่ลูกตาไปรวมตัวที่จอตา (เรตินา) ทำให้เกิดอาการสายตาฝ้าฟาง หรือสายตามัวคล้ายเห็นมีหมอกบัง

พบมากในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง คนอ้วน ผู้ที่ใช้ยาสเตียรอยด์ติดต่อกันนาน ๆ ผู้ที่สัมผัสถูกแสงแดด สูบบุหรี่หรือดื่มสุราจัดเป็นประจำ และอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคตาชนิดอื่น ๆ


สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะเสื่อมตามวัย ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีจะเป็นต้อกระจกแทบทุกราย แต่อาจเป็นมากน้อยต่างกันไป เรียกว่า ต้อกระจกในผู้สูงอายุ (senile cataract)

นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดต้อกระจกก่อนวัยสูงอายุ เช่น

    การมีโรคเรื้อรังประจำตัว (เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง) หรือมีภาวะอ้วน
    การถูกแสงแดด (รังสีอัลตราไวโอเลต)
    ความผิดปกติของตา (เช่น สายตาสั้นชนิดรุนแรง ม่านตาอักเสบ ต้อหิน) การได้รับบาดเจ็บ การกระทบกระเทือนที่ตาอย่างรุนแรง หรือการผ่าตัดตา
    การใช้ยา ที่พบบ่อย ได้แก่ การใช้ยาสเตียรอยด์ติดต่อกันนาน ๆ ทั้งชนิดกิน ชนิดหยอดตา ชนิดทา และชนิดสูดพ่น
    การถูกรังสีบริเวณตานาน ๆ เช่น ผู้ที่เป็นมะเร็งที่เบ้าตาเมื่อรักษาด้วยรังสีบ่อย ๆ
    การสูบบุหรี่ หรือดื่มสุราจัด
    ในเด็กอาจเป็นมาแต่กำเนิด อาจมีสาเหตุจากติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา (เช่น ทารกที่เป็นหัดเยอรมัน หรือซิฟิลิสแต่กำเนิด) หรือเกิดจากโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ (เช่น โรคกาแล็กโทซีเมีย, โรคเท้าแสนปมชนิดที่ 2) หรือกลุ่มอาการดาวน์ (Down’s syndrome เป็นโรคปัญญาอ่อนชนิดหนึ่งซึ่งทารกมีโครโมโซมที่ผิดปกติ)
    เด็กที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (atopic dermatitis) อาจพบว่าเป็นต้อกระจกตั้งแต่อายุ 20-40 ปี ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากตัวโรคเอง หรือเกิดจากการใช้สเตียรอยด์ติดต่อกันนาน ๆ ก็ได้


อาการ

ในระยะเริ่มแรกผู้ป่วยจะรู้สึกมีอาการตามองเห็นเหมือนมีหมอกจาง ๆ บังตาเพียงพื้นที่เล็ก ๆ ต่อมาสายตาจะค่อย ๆ มัวมากขึ้น และขยายพื้นที่ที่เห็นเหมือนหมอกบังมากขึ้นโดยไม่มีอาการเจ็บปวดหรือตาแดงแต่อย่างใด   

ผู้ป่วยจะรู้สึกตอนกลางคืนสายตาจะมัวมาก การอ่านหนังสือหรือทำงานที่ต้องใช้สายตาต้องใช้แสงที่สว่างมากขึ้น หรืออาจต้องเปลี่ยนแว่นสายตาบ่อย   

นอกจากนี้ ยังอาจมี อาการมองในที่มืดชัดกว่าที่สว่าง* หรือถูกแสงสว่างจะรู้สึกตาพร่ามัว สู้แสงไม่ได้ มองเห็นภาพสีซีดกว่าปกติหรือเป็นสีเหลือง มองเห็นแสงไฟกระจาย (โดยเฉพาะขณะขับรถในตอนกลางคืน) หรือมองเห็นเป็นวงแหวนรอบแสงไฟ บางคนอาจมีอาการมองเห็นภาพซ้อน

อาการตามัวจะเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ กินเวลาเป็นแรมเดือนแรมปี จนในที่สุดเมื่อแก้วตาขุ่นขาวมากขึ้น ก็จะมองภาพ (เช่น ตัวเลข ตัวหนังสือ หน้าคน) ไม่ชัด

สำหรับต้อกระจกในผู้สูงอายุ มักจะเป็นที่ตาทั้ง 2 ข้าง แต่จะสุกไม่พร้อมกัน หรือข้างหนึ่งมีอาการมากกว่าอีกข้างหนึ่ง

*สำหรับต้อกระจกในผู้สูงอายุในระยะแรก แก้วตามักจะขุ่นขาวเฉพาะบริเวณตรงกลาง เมื่อมองในที่มืดรูม่านตาจะขยาย เปิดทางให้แสงผ่านเข้าแก้วตาส่วนรอบนอกที่ยังใสเป็นปกติ จึงทำให้เห็นภาพได้ชัด แต่เมื่อมองในที่สว่างรูม่านตาจะหดเล็กลง แสงสว่างจะผ่านเฉพาะแก้วตาส่วนตรงกลางที่ขุ่นขาวทำให้พร่ามัว


ภาวะแทรกซ้อน

เมื่อต้อสุกและไม่ได้รับการผ่าตัดจะทำให้ตาบอดสนิท

ในบางรายแก้วตาอาจบวม หรือหลุดลอยไปอุดกั้นทางระบายของเหลวในลูกตา ทำให้ความดันภายในลูกตาสูงขึ้น จนกลายเป็นต้อหินได้ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตาอย่างรุนแรง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

การตรวจดูตาจะพบแก้วตามีลักษณะขุ่นขาว เวลาใช้ไฟส่องผู้ป่วยจะรู้สึกตาพร่า

การใช้เครื่องส่องตา (ophthalmoscope) ตรวจดูจะไม่พบปฏิกิริยาสะท้อนสีแดง (red reflex)

แพทย์จะใช้เครื่องตรวจวัดสายตา ความดันลูกตา จอประสาทตา และการตรวจสุขภาพตา ซึ่งมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน

บางครั้งแพทย์อาจให้ยาหยอดตาขยายรูม่านตา เพื่อเปิดมุมกว้างสำหรับการตรวจภายในลูกตาได้ละเอียด อาจทำให้เห็นแสงจ้า หรือรู้สึกตาพร่ามัวอยู่สักพักใหญ่ และจะหายดีหลังจากยาหมดฤทธิ์


การรักษาโดยแพทย์

ถ้าอาการยังไม่มาก แพทย์จะแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับการดูแลตนเองของผู้ป่วย ตัดแว่นสายตาใหม่ให้ผู้ป่วยใส่เพื่อให้มองเห็นได้ชัดขึ้น และนัดผู้ป่วยมาติดตามตรวจดูอาการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ (ทุก 6-12 เดือน)

แพทย์จะทำการผ่าตัดต้อกระจกเมื่อผู้ป่วยมีสายตามัวจนดำเนินชีวิตประจำวันได้ไม่สะดวก เช่น การอ่านหนังสือ การทำงานที่ต้องใช้สายตา การเดินทาง การขับรถ เป็นต้น

ส่วนในทารกที่เป็นต้อกระจกมาแต่กำเนิด อาจต้องผ่าตัดเมื่ออายุได้ 6 เดือน เพื่อป้องกันมิให้ประสาทตาเสื่อม

ในปัจจุบันจักษุแพทย์นิยมทำการผ่าตัดโดยวิธีสลายต้อด้วยคลื่นความถี่สูงหรืออัลตราซาวนด์ (phacoemulsification) ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่มีอาการไม่มาก หรือตั้งแต่ระยะไม่นานหลังตรวจพบว่าเป็นโรคนี้

การผ่าตัดโดยวิธีนี้ แพทย์จะใช้คลื่นความถี่สูงทำให้เนื้อเลนส์ (แก้วตา) สลายตัวและดูดออก แล้วใส่เลนส์เทียม (ซึ่งสามารถใช้งานได้ตลอดชีวิต) เข้าไปแทนในถุงหุ้มเลนส์เดิม* เรียกว่า "การฝังเลนส์เทียม (Intraocular lens implantation)" โดยมีเลนส์เทียมอยู่หลายชนิด แพทย์จะเลือกใช้เลนส์เทียมชนิดที่เหมาะกับระดับสายตาและการใช้งานของผู้ป่วยซึ่งได้ผ่านการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดก่อนผ่าตัด หลังผ่าตัดผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้แว่นสายตา

  การผ่าตัด ใช้วิธีฉีดยาชาที่บริเวณรอบดวงตา แผลผ่าตัดเล็กมากซึ่งไม่ต้องเย็บแผล ใช้เวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมง ไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล และสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ

        สำหรับผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกทั้ง 2 ข้าง แพทย์จะทำการผ่าตัดทีละข้าง โดยการผ่าตัดข้างที่ 2 ทิ้งช่วงให้ข้างแรกที่ผ่าหายดีเสียก่อน (แผลผ่าตัดมักจะหายดีภายใน 8 สัปดาห์) บางรายแพทย์อาจทำการผ่าตัดทั้ง 2 ข้างในครั้งเดียวกัน ซึ่งจำเป็นต้องมีคนดูแลหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด

ผลการรักษา การผ่าตัดด้วยวิธีนี้มีความปลอดภัยสูง และช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นสายตาให้กลับมามองเห็นชัดเช่นคนปกติทั่วไป และตาข้างที่ผ่าตัดแล้วไม่เป็นต้อกระจกซ้ำอีก

ส่วนภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดมีน้อยมากและมักแก้ไขได้ เช่น การติดเชื้อ การมีเลือดออกในลูกตา ภาวะถุงเลนส์ตาขุ่นหลังผ่าตัดต้อกระจก (posterior capsule opacification ซึ่งส่งผลให้การมองเห็นพร่ามัว) ภาวะจอตาลอก (retinal detachment) เป็นต้น   

*วิธีนี้จะไม่รอจนต้อสุกแบบวิธีผ่าตัดแบบเก่า เพราะถุงหุ้มเลนส์อาจเสื่อมจนใช้งานไม่ได้ จึงนิยมผ่าตัดในระยะที่เริ่มเป็นต้อกระจกได้ไม่นาน


การดูแลตนเอง

หากมีอาการสายตาพร่ามัว มองเห็นคล้ายมีหมอกบังตา หรือมองเห็นแสงสีที่ผิดไปจากปกติ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อแพทย์ตรวจพบว่าเป็นต้อกระจก ควรดูแลรักษา ดังนี้

1.  ระยะก่อนผ่าตัด

    รักษา ใส่แว่นสายตา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามดูอาการเปลี่ยนแปลงตามที่แพทย์นัด
    สวมแว่นกันแดด (รังสีอัลตราไวโอเลต) เวลาออกกลางแดด
    เวลาอยู่ในบ้านเพิ่มแสงสว่างให้เห็นชัด
    เวลาอ่านหนังสือ ใช้แว่นขยายช่วยตามความจำเป็น
    หลีกเลี่ยงการขับรถตอนกลางคืน
    หลีกเลี่ยงการซื้อยากินและยาหยอดตามาใช้เอง เพราะยังไม่มียาที่ใช้รักษาต้อกระจกให้หายได้ ยกเว้นการผ่าตัด 
    ถ้ามีอาการปวดตา ตาแดง ตาแฉะ เคืองตา หรือแสบตา ควรปรึกษาแพทย์ ในรายที่ตรวจพบว่ามีอาการแสบตา เคืองตาจากภาวะตาแห้งซึ่งมักพบในผู้สูงอายุ แพทย์จะให้น้ำตาเทียมหยอดตา 


2.  ระยะหลังผ่าตัด

    รักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น นั่ง ยืน เดิน ออกกำลังกายเบา ๆ ไม่หักโหม อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ กินอาหารได้ตามปกติ อาบน้ำได้ (ยกเว้นส่วนใบหน้าและศีรษะ) สระผมได้ (แต่ควรสระที่ร้านสระผม) ระวังอย่าให้น้ำเข้าตา จนกว่าแผลจะหายสนิท ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์หลังผ่าตัด   
    หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเบ่ง (เช่น การยกของหนัก การวิดพื้น การเบ่งอุจจาระแรง ๆ) และการไอหรือจามแรง ๆ ถ้ามีอาการไอมากควรพบแพทย์สั่งยาแก้ไอให้ เวลาจามควรอ้าปากจาม
    ห้ามให้น้ำเข้าตา ประมาณ 3-4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ควรใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำบิดให้หมาดเช็ดหน้าแทนการล้างหน้า และทำความสะอาดตาข้างที่ผ่าตัดตามคำแนะนำของแพทย์หรือพยาบาลทุกวัน โดยใช้น้ำเกลือและชุดเช็ดตาที่ทางโรงพยาบาลจัดให้
    ห้ามขยี้ตาหรือกระทบกระเทือนรุนแรงบริเวณดวงตาข้างที่ผ่าตัด ประมาณ 3-4 สัปดาห์ ควรป้องกันเหตุดังกล่าวด้วยการใช้ที่ครอบตาพลาสติกปิดตา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเข้านอนทุกคืน) ในเวลากลางวันหากไม่สะดวกที่จะใช้ที่ครอบตา สามารถสวมแว่นป้องกันดวงตาแทนที่ครอบตาได้
    หลีกเลี่ยงการใช้โลชั่น หรือการแต่งหน้ารอบ ๆ ดวงตา
    ใช้ยาหยอดตา/ยาป้ายตาที่แพทย์จัดให้อย่างเคร่งครัด (ซึ่งมักเป็นยาลดการอักเสบและยาปฏิชีวนะ) ควรหยอดตา/ป้ายตาเฉพาะข้างที่ผ่าตัดเท่านั้น ห้ามหยอด/ป้ายข้างที่ไม่ได้ผ่าตัด
    หลังเปิดตา (แพทย์จะแนะนำให้ใช้แผ่นผ้าปิดตาข้างที่ผ่าไว้ราว 5-7 วันหลังผ่าตัด) ตาข้างที่ผ่าตัดจะเห็นแสงจ้ามากกว่าปกติ ซึ่งจะค่อย ๆ ปรับเป็นปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ หากรู้สึกจ้ามากเมื่ออยู่ในที่สว่าง ควรใส่แว่นตาดำกันแสง
    ควรใส่แว่นตาดำกันแดดขณะออกไปข้างนอก หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นหรือควันมาก
    ติดตามการรักษาตามที่แพทย์นัด โดยทั่วไปแพทย์จะนัดมาดูแผลในวันรุ่งขึ้น และ 1 สัปดาห์ และ 1 เดือน หลังผ่าตัด หากไม่มีปัญหาแทรกซ้อนก็จะนัดห่างขึ้นไป และในที่สุดแพทย์จะนัดตรวจสุขภาพตาปีละ 1 ครั้ง
    ควรกลับไปปรึกษาแพทย์ก่อนนัดทันที
          -  ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น เปลือกตาบวม ตาแดงมากขึ้น ปวดตามาก มีขี้ตามากขึ้น เห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบหรือแสงแฟลชถ่ายรูป ตาข้างที่ผ่าเคยชัดกลับมัวลงอีก หรือเผลอขยี้ตาหรือตาได้รับการกระทบกระเทือนแรง
          -  ในกรณีที่แพทย์ให้ยากิน ยาหยอดตา/ยาป้ายตากลับไปใช้ที่บ้าน หากสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง คันตา ตาบวม ตาแดง ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

ต้อกระจกในผู้สูงอายุ ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล แต่อาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจก หรือป้องกันไม่ให้เกิดต้อกระจกก่อนวัยอันควร ด้วยการปฏิบัติตัวดังนี้

    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และการดื่มสุราจัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาสเตียรอยด์ ยาชุดหรือยาลูกกลอนที่ใส่ยาสเตียรอยด์มาใช้เองอย่างพร่ำเพรื่อ (ยาสเตียรอยด์เป็นยาอันตรายที่ควรให้แพทย์สั่งใช้ตามความจำเป็น)
    สวมแว่นกันแดด (รังสีอัลตราไวโอเลต) เวลาออกกลางแดด
    ถ้าน้ำหนักเกิน ลดน้ำหนัก
    ควบคุมโรคประจำตัว (เช่น เบาหาน ความดันโลหิต) ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    กินผักและผลไม้ให้มาก ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและเกลือแร่ให้เพียงพอ ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกได้

ข้อแนะนำ

1. อาการตามัวอาจมีสาเหตุอื่นนอกจากต้อกระจก ควรซักถามอาการและตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่ใช่เกิดจากภาวะร้ายแรง เช่น ต้อหิน (ตรวจอาการตามัว)

2. ต้อกระจกที่พบในผู้ที่มีอายุน้อย หรือวัยกลางคน อาจมีสาเหตุจากเบาหวานหรืออื่น ๆ ได้ ควรแนะนำไปตรวจที่โรงพยาบาล

3. การรักษาต้อกระจกมีอยู่วิธีเดียว คือ การผ่าตัด ไม่มียาที่ใช้กินหรือหยอดแก้อาการของต้อกระจกได้ ปัจจุบันแพทย์นิยมทำการผ่าตัดโดยวิธีสลายต้อด้วยคลื่นความถี่สูงและการฝังเลนส์เทียม ซึ่งมีอยู่หลายชนิด ได้แก่ เลนส์เทียมชนิดโฟกัสระยะเดียว (monofocal  IOL ช่วยให้สามารถโฟกัสภาพในระยะไกลได้ ส่วนการมองใกล้ต้องอาศัยแว่นอ่านหนังสือช่วย), เลนส์เทียมชนิดโฟกัสหลายระยะ (multifocal IOL ใช้สำหรับมองไกลและใกล้ได้), เลนส์เทียมชนิดยืดหยุ่น (accommodating IOL ปรับระยะได้ในตัวเอง คล้ายแก้วตาธรรมชาติ), เลนส์เทียมชนิดแก้ไขสายตาเอียง (Toric IOL ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้แว่นตาแก้สายตาเอียงหลังผ่าตัดในผู้ป่วยที่มีสายตาเอียงอยู่เดิม), เลนส์เทียมชนิดโฟกัสหลายระยะและแก้ไขสายตาเอียง (Multifocal Toric IOL ช่วยให้มองเห็นในระยะใกล้และไกลชัดเจน และแก้ไขสายตาเอียง)

สำหรับผู้ป่วยที่มีข้อห้าม ไม่สามารถผ่าตัดโดยวิธีฝังเลนส์เทียม หลังผ่าตัดเอาต้อกระจกออก แพทย์จะวัดสายตาและตัดแว่นให้ผู้ป่วยใส่แทน

4. ถ้าหลังจากผ่าตัด ตาข้างนั้นมีอาการตามัวอีก ควรกลับไปปรึกษาแพทย์ อาจเกิดจากถุงหุ้มเลนส์ขุ่น หรือสาเหตุอื่น เช่น ต้อหิน จอตาเสื่อม เป็นต้น

5. ผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกควรหลีกเลี่ยงการไปรักษาตามแบบพื้นบ้าน ซึ่งบางคนยังนิยมเพราะกลัวการผ่าตัด หรือกลัวเสียค่าใช้จ่ายมาก หมอเหล่านี้ (ซึ่งไม่ใช่แพทย์) จะทำการเดาะแก้วตา (couching) โดยการใช้เข็มดันแก้วตาให้หลุดไปด้านหลังของลูกตา แสงก็จะผ่านเข้าไปในตาได้ ทำให้มองเห็นแสงสว่างได้ทันที และให้ใส่แว่นทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้น แต่ไม่ช้าจะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น ต้อหิน เลือดออกในวุ้นลูกตา หรือประสาทตาเสื่อมทำให้ตาบอดอย่างถาวร

10
สาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง

โรคมะเร็งเกิดจากความผิดปกติในระดับพันธุกรรมของเซลล์ ซึ่งส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโตและแบ่งตัวอย่างผิดปกติโดยไม่มีการควบคุม สาเหตุของการเกิดมะเร็งนั้นซับซ้อนและมีหลายปัจจัยร่วมกัน โดยสามารถแบ่งออกเป็นปัจจัยหลักๆ ได้ดังนี้

1. ปัจจัยทางพันธุกรรม

ยีนที่ถ่ายทอดจากครอบครัว: หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านมหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ ก็จะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป เนื่องจากมีการถ่ายทอดความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็ง

ความผิดปกติของโครโมโซม: ความผิดปกติบางอย่างของโครโมโซมอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิดได้


2. ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรม

การสูบบุหรี่: เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปอด, มะเร็งกล่องเสียง, และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

การดื่มแอลกอฮอล์: การดื่มในปริมาณมากเป็นเวลานานเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับ, มะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งลำไส้

อาหาร: การทานอาหารที่มีไขมันสูง, เนื้อสัตว์แปรรูป, และอาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียมเป็นประจำ

การติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย: เช่น

ไวรัสตับอักเสบชนิด B และ C: เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งตับ

ไวรัส HPV: เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก

สารเคมี: การได้รับสารเคมีบางชนิด เช่น แร่ใยหิน (Asbestos) หรือสารหนู (Arsenic)

รังสี: การได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดเป็นเวลานาน ทำให้เสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง

การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง หากคุณมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งหรือมีปัจจัยเสี่ยง ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ค่ะ

11
การจัดฟันเด็ก แพงไหม

การเข้ารับการจัดฟัน แน่นอนว่า เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมมาก ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เราก็มมักจะพบเจอกับคนที่สวมใส่เหล็กจัดฟัน เพราะนอกจากการจัดฟันจะช่วยในเรื่องของเสริมสร้างสุขภาพช่องปากและฟันแล้ว การเข้ารับการจัดฟันยังถือว่าเป็นเทรนยอดฮิตสำหรับวัยรุ่นด้วย แต่การเข้ารับการจัดฟันนั้น ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงในลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร ซึ่งอาจจะทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารที่ชื่นชอบได้ หรือต้องเลือกรับประทานอาหารมากขึ้น เพราะอาหารบางอย่างส่งผลต่อเหล็กจัดฟันหรือเครื่องมือการจัดฟัน เพราะจะทำให้เครื่องมือการจัดฟันหลุดได้ขณะรับประทานอาหาร

และอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การทำความสะอาดช่องปากและฟัน เพราะผู้เข้ารับการจัดฟันบางคน อาจจะทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะมีเครื่องมือการจัดฟันแบบติดแน่นติดอยู่ภายในช่องปาก ซึ่งอาจจะทำให้ทำความสะอาดได้ยากกว่าปกติ และไม่ทั่วถึง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ ดังนั้น ก่อนเข้ารับการจัดฟันไม่ว่าจะรูปแบบใด ก็ควรศึกษารายละเอียดให้ดี หรือปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองที่อยากจะพาบุตรหลานเข้ารับการจัดฟันในเด็ก แต่ก็ยังมีความสงสัยในเรื่องของการปฏิบัติตัวระหว่างการจัดฟันในเด็ก ว่าควรที่จะปฏิบัติตัวอย่างไร และอีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ ในเรื่องของค่าใช้จ่ายในระหว่างการจัดฟันในเด้ก ว่า การจัดฟันนั้น ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

ซึ่งวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงค่าใช้จ่ายในการจัดฟันในเด็ก ซึ่งหลายคนอยากจะทราบว่า การเข้ารับการจัดฟันนั้น แพงหรือไม่ ต้องบอกก่อนว่า การเข้ารับการจัดฟันนั้น เป็นการรักษาที่ค่อนข้างจะใช้ระยะเวลานานพอสมควร ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของเด็กแต่ละคนด้วย ยกตัวอย่างเช่น เด็กมีฟันผุ หรือมีปัญหาอื่นๆ ทันตแพทย์ก็จะทำการรักษาก่อนเพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาในระหว่างการจัดฟัน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการจัดฟันแน่นอนว่า หลายคนทราบกันดีว่า สามารถแบ่งจ่ายได้ แต่การลงทุนในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน

แน่นอนว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่ดีต่อช่องปากและฟันอย่างแน่นอน ในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน อย่างที่เราบอกไปตั้งแต่ต้นว่า เป็นการรักษาที่ค่อนข้างใช้เวลานาน ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละบุคคล ดังนั้น ค่าใช้จ่ายในการรักษาจึงไม่มีราคาตายตัว แต่ก็สามารถแบ่งจ่ายได้ ถึงแม้ว่าการจัดฟันในเด็ก อาจจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูง แต่บอกเลยว่า ผลการรักษาจะเป็นที่น่าพอใจอย่างแน่นอน ทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตของเด็กได้ด้วย ดังนั้น ในเรื่องของพัฒนาการของเด็ก บุคลิกภาพของเด็ก รอยยิ้มความมั่นใจของเด็ก เป็นสิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะลงทุน เพื่อให้บุตรหลานของท่านได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจอยากพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกทางเรามีทันตแพทย์ที่คอยให้คำปรึกษา ซึ่งทันตแพทย์ของเรามีประสบการณ์ในด้นการจัดฟันมาอย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรม นอกจากนี้ เรายังมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการจัดฟันในเด็ก เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับแนวทางของตัวเอง เพื่อที่จะได้รับบริการอย่างไม่กังวล เพราะเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนด้วย

12
วัดวรโพธิ์ ที่เที่ยววัดอยุธยา ชมโบราณเก่าแก่ ไหว้องค์พระ วัดสวย

วัดวรโพธิ์ หรือชื่อเดิมว่า "วัดระฆัง" เป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


จุดเด่นที่น่าสนใจ

โบราณสถานเก่าแก่: ภายในวัดประกอบด้วยซากวิหารและเจดีย์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีต นอกจากนี้ยังมีซากแท่นพระศรีมหาโพธิ์ที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง

พระพุทธรูปปางมารวิชัย: เป็นอีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ในวัด ผู้คนนิยมมากราบไหว้เพื่อขอพรและเป็นสิริมงคล

รอยพระพุทธบาทจำลอง: มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทจำลองที่ทำจากหินเนื้อละเอียด สลักลายมงคล 108 ประการ ซึ่งแสดงถึงศิลปะที่งดงามในสมัยอยุธยาตอนกลาง ปัจจุบันได้ย้ายไปประดิษฐานที่ศาลาของวัด

วัดวรโพธิ์ยังคงเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาศึกษาประวัติศาสตร์และชมความงามของโบราณสถาน โดยตั้งอยู่ใกล้เคียงกับวัดสำคัญอื่นๆ เช่น วัดโลกยสุธาราม และวัดวรเชษฐาราม ทำให้สามารถเดินทางไปเที่ยวชมได้สะดวกในทริปเดียว








13
เมนูสร้างอาชีพ ผัดกะเพรากุนเชียง อาหารตามสั่งจานเด็ด รสเผ็ดหวานกลมกล่อม หอมกลิ่นใบกะเพรา

เมื่อพูดถึงอาหารริมทางของไทย หนึ่งในเมนูยอดนิยมและชื่นชอบมากที่สุดคือผัดกะเพราข้าว อาหารจานนี้ทำด้วยหมูสับ ไก่ หรืออาหารทะเล แบบดั้งเดิม ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่เข้มข้นของกระเทียม พริกและกะเพรา อย่างไรก็ตามกะเพรากุนเชียงเป็นอีกหนึ่งเมนูที่สร้างสรรค์และอร่อย เสิร์ฟพร้อมไข่ดาว ข้าวกะเพรากุนเชียงไข่ดาวเป็นเมนูอาหารตามสั่งยอดนิยมที่หารับประทานได้ง่าย

มีรสชาติอร่อยจัดจ้าน และมีส่วนผสมหลักดังนี้:

อะไรที่ทำให้จานนี้พิเศษ?
ผัดกะเพราเวอร์ชั่นนี้ ใช้ กุนเชียง (กุนเชียง)แทนโปรตีนปกติซึ่งมีรสหวานและหอมกลิ่นควันเล็กน้อย เมื่อผัดกับพริก กระเทียม และโหระพา กุนเชียงจะดูดซับกลิ่นหอมและเพิ่มความหวานที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อสมดุลกับความเผ็ดของจานนี้

วัตถุดิบ:
ข้าวหอมมะลินึ่ง 1 ถ้วย
กุนเชียง 1-2 อัน หั่นเป็นแว่น
กระเทียมสับ 2-3 กลีบ
พริกขี้หนูสับ 2-3 เม็ด (ปรับความเผ็ดได้ตามชอบ)
ใบโหระพา 1/2 ถ้วย
ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
น้ำตาล 1/2 ช้อนชา
น้ำมันปรุงอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ 1 ฟอง(สำหรับทอดไข่)

วิธีการเตรียมตัว:
เตรียมไส้กรอกจีน – หั่นไส้กรอกเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วทอดในกระทะจนหอม ยกออกจากกระทะแล้วพักไว้
วิธีผัด – ในกระทะเดียวกัน ใส่น้ำมันเพิ่มอีกเล็กน้อย ผัดกระเทียมสับและพริกจนมีกลิ่นหอม
ใส่ไส้กรอกกลับลงไป – ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม น้ำปลา ซีอิ๊ว และน้ำตาลเล็กน้อย
ใส่โหระพา – ปิดไฟแล้วใส่ใบโหระพาลงไปทันทีเพื่อคงรสชาติสดใหม่
ทอดไข่ – ทอดไข่ในกระทะอีกใบจนขอบกรอบแต่ไข่แดงยังคงเยิ้มอยู่
เสิร์ฟ – วางผัดกะเพราและไส้กรอกลงบนจานข้าวหอมมะลิร้อนๆ โรยด้วยไข่ดาวกรอบ

ทำไมคุณถึงควรลอง?
ความสมดุลของรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ – ความหวานของไส้กรอกจีนตัดกับผัดโหระพากระเทียมรสเผ็ดได้อย่างลงตัว
รวดเร็วและง่ายดาย – สามารถทำอาหารจานนี้ในเวลาไม่ถึง 15 นาที ทำให้เป็นมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันยุ่งๆ
ปรับแต่งได้ – คุณสามารถปรับระดับความเผ็ด เพิ่มผัก หรือแม้แต่เปลี่ยนไส้กรอกจีนเป็นโปรตีนชนิดอื่นได้
หากคุณเป็นแฟนของอาหารริมทางของไทยและชอบลองอาหารรูปแบบใหม่ๆผัดกะเพราใส่กุนเชียงและไข่ดาวเป็นเมนูที่ต้องลอง นับเป็นการพลิกแพลงอาหารคลาสสิกที่ผสมผสานรสชาติหวาน เผ็ด และเผ็ดร้อนในทุกคำ รับรองว่าอร่อยถูกปาก


14
หมอประจำบ้าน: กระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis)

กระเพาะอาหารอักเสบ (กระเพาะอักเสบ ก็เรียก) หมายถึง การอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร ในปัจจุบันได้แบ่งกระเพาะอาหารอักเสบ เป็นชนิดเยื่อบุกร่อน (erosive gastritis) ชนิดเรื้อรัง (chronic/nonerosive gastritis) และชนิดจำเพาะ (specific types of  gastritis) โรคนี้พบได้ในคนทั่วไป พบมากในผู้ที่กินยาแอสไพริน ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (ยาแก้ปวดข้อ) ดื่มสุราจัด และผู้สูงอายุ


สาเหตุ

1. กระเพาะอาหารอักเสบชนิดเยื่อบุกร่อน เยื่อบุกระเพาะอาหารจะมีลักษณะแดงและกร่อน เป็นแผลตื้น ๆ หลายแห่ง อาจมีภาวะเลือดออก จึงมีอีกชื่อหนึ่งว่า กระเพาะอาหารอักเสบชนิดเลือดออก (hemorrhagic gastritis) มักมีสาเหตุจาก

    ยาโดยเฉพาะอย่างยิ่งแอสไพรินและยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
    แอลกอฮอล์
    ภาวะร่างกายเครียดเฉียบพลัน เช่น ไฟไหม้ น้ำร้อนลวกรุนแรง บาดเจ็บรุนแรง การผ่าตัด ภาวะช็อก ภาวะไตวาย ภาวะตับวาย เป็นต้น
    พบร่วมกับโรคตับแข็งที่มีภาวะความดันในหลอดเลือดดำตับสูง (portal hypertension)

2. กระเพาะอาหารอักเสบชนิดเรื้อรัง ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ วินิจฉัยจากการตรวจชิ้นเนื้อ แบ่งออกเป็น

ก. ชนิดเอ จะมีความผิดปกติตรงส่วนต้น (fundus) ของกระเพาะอาหาร มีสาเหตุจากปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง (autoimmune) มักมีภาวะโลหิตจางจากภาวะขาดวิตามินบี12 (pernicious anemia) ร่วมด้วย เพราะไม่สามารถดูดซึมวิตามินชนิดนี้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร

ข. ชนิดบี จะมีความผิดปกติตรงส่วนปลาย (antrum) ของกระเพาะอาหาร แต่ก็อาจลุกลามไปทั่วกระเพาะอาหาร มีสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียแกรมลบ ชื่อ เฮลิโคแบกเตอร์ไพโลไร หรือ "เอชไพโลไร" (Helicobacter pylori/H.pylori) เชื้อนี้สามารถติดต่อโดยการกินอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนอุจจาระของผู้ติดเชื้อ แล้วเข้าไปฝังตัวอยู่ใต้เยื่อบุผิวกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรังจากเชื้อชนิดนี้มีความสัมพันธ์กับการเกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น (แผลเพ็ปติก) และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร

3. กระเพาะอาหารอักเสบชนิดจำเพาะ พบร่วมกับโรคต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อราหรือเชื้อไวรัสในผู้ป่วยเอดส์ การติดเชื้อวัณโรค ซิฟิลิส พยาธิ การถูกสารเคมี เป็นต้น


อาการ

มีอาการปวดแสบตรงใต้ลิ้นปี่ หลังกินอาหารอาจทุเลาหรือเป็นมากขึ้นก็ได้ หรือมีอาการจุกแน่นตรงใต้ลิ้นปี่หลังกินข้าว อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หรือท้องเดินร่วมด้วย

ในรายที่เป็นชนิดเยื่อบุกร่อน อาจมีอาการอาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายดำ โดยจะมีอาการปวดท้องร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ มักมีประวัติการกินยา ดื่มสุราจัด หรือมีภาวะเครียดก่อนมีเลือดออก

บางรายอาจไม่มีอาการแสดงจนกว่าจะเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เลือดออก โลหิตจาง


ภาวะแทรกซ้อน

หากปล่อยไว้ไม่รักษา อาจกลายเป็นแผลกระเพาะอาหาร หรือมีภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหาร (อาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ เมื่องดยาและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วเลือดมักหยุดออกได้เอง มีเพียงส่วนน้อยที่อาจมีเลือดออกมากจนต้องให้เลือด)

ในรายที่เป็นเรื้อรังอาจกลายเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยขั้นต้นจากอาการ ส่วนการตรวจร่างกายมักไม่พบสิ่งผิดปกติ

แพทย์จะวินิจฉัยได้แน่ชัดโดยการใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะอาหาร (gastroscopy) และตรวจหาเชื้อเอชไพโลไรในกระเพาะอาหาร


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้ามีอาการแสบท้องหรือปวดท้องตอนดึก หรือจุกเสียดแน่นท้องหลังอาหารหรือมีประวัติกินยาแอสไพริน หรือยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ แพทย์จะให้ยาลดการสร้างกรดกลุ่มโปรตอนปั๊มป์ (เช่น โอเมพราโซล, แพนโทพราโซล, แลนโซพราโซล, ราบีพราโซล เป็นต้น) นาน 8 สัปดาห์ ผู้ป่วยต้องงดดื่มแอลกอฮอล์ และยาที่อาจทำให้กระเพาะอาหารอักเสบ

2. ถ้ามีอาการอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายดำ แพทย์จะรับตัวรับไว้รักษาในโรงพยาบาล อาจต้องให้เลือด และตรวจหาสาเหตุโดยการใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะลำไส้ (endoscopy) แล้วให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ

3. ในรายที่กินยาแล้วไม่ดีขึ้น หรือเป็นเรื้อรัง หรือน้ำหนักลด จำเป็นต้องตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม โดยการใช้กล้องส่องตรวจกระเพาะลำไส้ ตรวจชิ้นเนื้อกระเพาะอาหาร แล้วให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ

ในกรณีที่เป็นกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรังจากเชื้อเอชไพโลไร (H.pylori) จะให้ยาปฏิชีวนะหลายชนิดร่วมกันนาน 7-14 วันเพื่อกำจัดเชื้อ


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดจุกแน่นตรงใต้ลิ้นปี่ กินยาลดกรด 2-3 ครั้งแล้วไม่ทุเลา หรือมีอาการอาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายอุจจาระดำ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นกระเพาะอาหารอักเสบ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

1. กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

2. ติดตามการรักษากับแพทย์ตามนัด

3. ปฏิบัติตัว ดังนี้

    กินอาหารทีละน้อย แต่บ่อยมื้อขึ้น
    หลีกเลี่ยงอาหารมัน ของทอด อาหารเผ็ดจัด และเปรี้ยวจัด
    งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มกาเฟอีน และน้ำอัดลม
    หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพริน และยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (ใช้แก้ปวด แก้ปวดข้อ)

4. ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดท้องมาก อาเจียน อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระดำ ซีด ตาเหลือง คลำได้ก้อนในท้อง กินยารักษา 1 สัปดาห์แล้วไม่ดีขึ้น หรือมีอาการผิดสังเกตที่สงสัยว่าเกิดจากผลข้างเคียงจากยาที่ใช้ (เช่น ลมพิษ ผื่นคัน ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปากแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินหรือท้องผูก เป็นต้น)


การป้องกัน

เนื่องจากโรคนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุได้ ซึ่งบางชนิดป้องกันได้ บางชนิดป้องกันไม่ได้

สำหรับคนทั่วไป อาจป้องกันการเกิดกระเพาะอักเสบกลุ่มที่พบได้บ่อย ดังนี้

    หลีกเลี่ยงการดื่มสุรามาก ถ้าจะดื่ม ควรดื่มในปริมาณเล็กน้อยเป็นครั้งคราว
    หลีกเลี่ยงการใช้แอสไพริน และยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (ใช้แก้ปวด แก้ปวดข้อ) ด้วยตัวเองอย่างพร่ำเพรื่อ ในกรณีที่จำเป็น ควรให้แพทย์ตัดสินใจและแนะนำการใช้ที่ปลอดภัย
    ป้องกันการติดเชื้อเอชไพโลไร ด้วยการกินอาหารที่ปรุงสุก และหมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ก่อนเตรียมอาหาร ก่อนเปิบข้าว และหลังถ่ายอุจจาระ

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยที่กินยาแอสไพริน หรือยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ทุกราย ให้สังเกตสีของอุจจาระเป็นประจำ ถ้าเป็นสีดำต้องรีบกลับไปพบแพทย์หรือโรงพยาบาลโดยเร็ว ผู้ป่วยจำนวนมากไม่ทราบว่าอาการถ่ายดำเป็นอาการเลือดออกในกระเพาะลำไส้ มักปล่อยให้เลือดออกมากจนมีอาการอ่อนเพลีย ซีด เป็นลม จึงค่อยไปโรงพยาบาล ซึ่งมักจะต้องให้เลือด และเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง

2. มะเร็งกระเพาะอาหารระยะแรก (ซึ่งพบในคนอายุมากกว่า 40 ปีมากกว่าวัยที่ต่ำกว่า 40 ปี) อาจมีอาการคล้ายอาหารไม่ย่อย (dyspepsia หรือ "โรคกระเพาะ") หรือกระเพาะอาหารอักเสบ และอาการสามารถทุเลาด้วยยาต้านกรดและยาลดการสร้างกรด แต่ต่อมาเมื่อแผลมะเร็งลุกลามมากขึ้น การใช้ยาจะไม่ได้ผล และจะมีอาการน้ำหนักลด อาเจียน หรือถ่ายดำตามมาได้ ดังนั้น หากรักษา "โรคกระเพาะ" โดยวินิจฉัยจากอาการแสดง 2 สัปดาห์แล้วไม่ดีขึ้น  มีอาการกำเริบบ่อย หรือพบในคนอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์ให้ทำการตรวจพิเศษ (เช่น ส่องกล้องหรือเอกซเรย์กระเพาะลำไส้) เพื่อแยกแยะสาเหตุให้แน่ชัด หากพบว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารจะได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ ซึ่งได้ผลดีกว่าพบในระยะลุกลามแล้ว

15
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)

ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)
วิธีขายอาหารจากครัวของคุณสามารถให้ผลตอบแทนและกำไรได้ กุญแจสู่ความสำเร็จในการขายอาหารจากครัวในบ้านของคุณ
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


หน้า: [1] 2 3 ... 48