head prakardsod






























































แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 45
1
การสร้างรายได้ ด้วยคอหมูย่างสูตรโบราณ กลิ่นหอม อบอวล เคี้ยวนุ่ม ความอร่อยเหนือกาลเวลา

อาหารไทยขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่เข้มข้น กลิ่นหอมของเครื่องเทศและรสชาติที่สมดุล ในบรรดาเมนูยอดนิยมมากมายคอหมูย่างถือเป็นเมนูโปรดคลาสสิก อาหารไทยดั้งเดิมจานนี้ได้รับความนิยมมาหลายชั่วอายุคน โดยเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเนื้อนุ่มฉ่ำ กลิ่นหอมควันและน้ำจิ้มรสเด็ด สูตรคอหมูย่างโบราณพร้อมเคล็ดลับความอร่อย:

คอหมูย่างคืออะไร?
คอหมูย่างเป็นคอหมูย่างแบบไทยๆ ที่หมักและย่างไฟอ่อนๆ บนเตาถ่านเพื่อให้ได้ความกรอบและความนุ่มที่ลงตัว แตกต่างจากหมูย่างทั่วไป ตรงที่ใช้คอหมูย่างเพราะมีอัตราส่วนไขมันต่อเนื้อที่เหมาะสมซึ่งทำให้คอหมูชุ่มฉ่ำและมีรสชาติอร่อย

ความลับเบื้องหลังสูตรดั้งเดิม
หมูย่างสูตร ดั้งเดิมของคอหมูย่างหมักด้วยสูตรหมักที่สืบทอดกันมายาวนาน ช่วยเพิ่มรสชาติตามธรรมชาติของเนื้อหมูพร้อมทั้งให้กลิ่นหอมอร่อย ส่วนผสมหลักในการหมัก ได้แก่:
กระเทียม – เพิ่มกลิ่นหอมและรสเผ็ด
รากผักชี – ให้รสชาติดินและกลิ่นส้มเล็กน้อย
พริกไทยดำ – เพิ่มความเผ็ดร้อน
น้ำปลา – ช่วยให้มีรสอูมามิที่เข้มข้น
ซอสหอยนางรม – เพิ่มความหวานและความเข้มข้นเล็กน้อย
น้ำตาลปาล์ม – ช่วยให้พื้นผิวเป็นคาราเมลขณะย่าง
ซีอิ๊วขาว – ปรับสมดุลความเค็มและเพิ่มสีสัน
หมักหมูไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง (หรือหมักข้ามคืนเพื่อรสชาติที่เข้มข้น) ก่อนจะนำไปย่างบนถ่าน เพื่อให้ไขมันละลายช้าๆ ทำให้ชั้นนอกกรอบในขณะที่ด้านในยังคงความชุ่มฉ่ำ

เคล็ดลับความอร่อย:
การหมักหมูข้ามคืนจะทำให้รสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น
การย่างบนเตาถ่านจะทำให้คอหมูย่างมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ
ระหว่างย่างให้ทาเครื่องหมักที่เหลืออยู่บนเนื้อหมูเป็นระยะ เพื่อเพิ่มความชุ่มฉ่ำและรสชาติ
เสริฟพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ และน้ำจิ้มแจ่ว จะเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น

วิธีรับประทานคอหมูย่าง
เกาเหลาหมูย่างเสิร์ฟคู่กับ น้ำจิ้ม แจ่วซึ่งเป็นน้ำจิ้มรสเผ็ดเปรี้ยวที่ทำจาก:
น้ำปลา
น้ำมะนาว
ผงข้าวคั่ว
พริกป่น
น้ำตาลมะพร้าว
ผักชีและต้นหอมซอย
เนื้อหมูรมควันที่นุ่มลิ้นผสมผสานกับน้ำจิ้มรสเผ็ด เปรี้ยว และอูมามิ สร้างสรรค์รสชาติที่ระเบิดความอร่อยที่มิอาจลืมเลือน

การจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ
หากต้องการสัมผัสรสชาติแบบไทยแท้ ให้ทานเกาเหลาหมูย่าง คู่ กับ:
✔ ข้าวเหนียว (ข้าวเหนียว) – เพิ่มความนุ่มและเคี้ยวหนึบให้กับจานอาหาร
✔ ผักสด – เช่น แตงกวา กะหล่ำปลี และโหระพา เพื่อความสมดุลกับรสชาติ
✔ ส้มตำ – เพิ่มความกรุบกรอบสดชื่นและรสเผ็ดร้อน

ทำไมคุณถึงควรลองอาหารไทยคลาสสิกนี้
คอหมูย่างไม่ได้เป็นแค่เพียงอาหารย่างเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอาหารไทยแบบดั้งเดิมอีกด้วย รสชาติที่สมดุลอย่างพิถีพิถัน วิธีการย่างไฟอ่อน และน้ำจิ้มสูตรโฮมเมด ทำให้กอหมูย่างเป็นเมนูที่ต้องลองชิมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย

ไม่ว่าคุณจะทำเองที่บ้านหรือจะลองชิมที่แผงขายอาหารริมทางในประเทศไทย คอหมูย่างรับรองว่าจะมอบประสบการณ์ความหอมควัน ชุ่มฉ่ำและรสชาติกลมกล่อมทุกครั้ง

2
หมอประจำบ้าน: แผลถลอกในช่องหู

แผลถลอกในช่องหู ในที่นี้หมายถึงช่องหูชั้นนอกเกิดแผลถลอก หากปล่อยปละละเลย อาจทำให้หูชั้นนอกเกิดการติดเชื้ออักเสบรุนแรงได้ มักพบในผู้ที่ชอบแคะหูบ่อย


สาเหตุ

มักเกิดจากการแคะหูแรง ๆ หรือทำอย่างผิด ๆ ทำให้ผิวหนังในบริเวณรูหูเกิดเป็นแผลถลอก


อาการ

ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหู หูอื้อ และอาจมีเลือดหรือน้ำเหลืองไหลออกจากหู


ภาวะแทรกซ้อน

อาจมีการติดเชื้ออักเสบ กลายเป็นหูชั้นนอกอักเสบได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและการใช้เครื่องส่องหูตรวจ พบรอยถลอกในรูหู


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

ถ้าเป็นไม่มาก แผลถลอกอาจหายได้เองภายใน 2-3 วัน แต่ควรระวังรักษาความสะอาด อย่าลงดำน้ำ หรือเล่นน้ำในสระหรือแม่น้ำลำคลอง อาจใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำยาโพวิโดนไอโอดีนทาวันละ 2-3 ครั้ง

ถ้าปวดให้ยาแก้ปวด

ถ้ามีอาการติดเชื้อ ให้ยาปฏิชีวนะ (เช่น ไดคล็อกซาซิลลิน, อีริโทรไมซิน) 5-7 วัน


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการปวดหู มีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมออกจากหู ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นแผลถลอกในช่องหู ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    งดการลงเล่นน้ำ ดำน้ำ หรือว่ายน้ำในสระหรือแม่น้ำลำคลอง
    เวลาอาบน้ำ ใช้สำลีหรือวัสดุอุดรูหู ป้องกันไม่ให้น้ำเข้าหู 


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีอาการไข้ ปวดหูมากขึ้น หรือหูน้ำหนวกไหล
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

หลีกเลี่ยงการใช้ไม้หรือสิ่งอื่น ๆ แคะหู เพราะนอกจากไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจทำให้เกิดแผลถลอกและติดเชื้ออักเสบได้


ข้อแนะนำ

แผลถลอกในช่องหู ส่วนใหญ่มีอาการเพียงเล็กน้อยและหายได้เอง โดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ

ส่วนน้อยอาจเกิดการติดเชื้อกลายเป็นหูชั้นนอกอักเสบรุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน หรือเอดส์

3
ติดฉนวนกันความร้อน ฉนวนใยแก้วกันความร้อน แล้วทำไมบ้านยังร้อน?

สำหรับเจ้าของบ้านที่ซื้อฉนวนใยแก้วกันความร้อนมาติดตั้งบริเวณหลังคาหรือฝ้าเพดาน แล้วพบว่าบ้านไม่ได้เย็นขึ้นอย่างที่คิด ให้ลองหันมาดูปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดความร้อนในบ้าน

รวมถึงช่องทางระบายความร้อนออกไปนอกบ้าน ทั้งนี้ อาจลองพิจารณาวิธีอื่นๆ ที่ช่วยลดความร้อนในบ้านด้วย

        ปัญหาบ้านร้อน นับเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ที่อาศัยเขตเส้นศูนย์สูตรอย่างประเทศไทย วิธีแก้ปัญหาที่มักนึกถึงกันคือ การติดตั้ง “ฉนวนใยแก้วกันความร้อน” และเนื่องจากความร้อนที่เกิดขึ้นภายในบ้าน ประมาณ 70 % มักมาจากทางหลังคาบ้าน เจ้าของบ้านจึงมักได้รับคำแนะนำให้ติดฉนวนกันความร้อนที่หลังคาหรือฝ้าเพดานชั้นบนสุด แต่ทั้งนี้อาจมีบางกรณีที่ซื้อฉนวนมาติดตั้งตามคำแนะนำแล้ว แต่ความร้อนในบ้านก็ไม่ได้ลดลง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ? ก่อนอื่น เจ้าของบ้านควรทำความเข้าใจถึงแหล่งกำเนิดของความร้อนภายในบ้านว่ามาจากส่วนใดได้บ้าง

ความร้อนในบ้านมาจากไหน

        โดยทั่วไป ความร้อนภายในบ้านส่วนใหญ่มักมาจากแสงแดดที่ส่งผ่านความร้อนเข้ามาในบ้าน ผ่านทางหลังคาและ ฝ้าเพดานชั้นบน อีกทางที่เข้ามาได้ง่ายคือ ผนังกระจกและประตูหน้าต่างกระจก ทั้งนี้ แสงแดดยังส่งผ่านความร้อนบางส่วนผ่านผนังทึบได้ด้วย โดยจะมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับค่ากันความร้อน หรือที่เรียกว่า “ค่า R” ของระบบผนังซึ่งแตกต่างกันไปตามชนิดของวัสดุและการติดตั้ง นอกจากนี้ การทำกิจกรรมประจำวันภายในบ้านก็ทำให้เกิดความร้อนได้ เช่น ความร้อนจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ความร้อนจากร่างกายคนเป็นต้น

ทำความรู้จักฉนวนใยแก้วกันความร้อน

        ฉนวนใยแก้วกันความร้อน ผลิตจากซิลิกาซึ่งเป็นวัตถุดิบจากแก้ว นำไปหลอมละลายแล้วปั่นเป็นเส้นใย มีคุณสมบัติทนและกันความร้อนได้ดีมากสามารถติดไฟได้แต่ไม่ลามไฟ (ตรงข้ามกับวัสดุกันความร้อนหลายชนิดที่ลามไฟได้รวดเร็ว) วัสดุเส้นใยแก้วเมื่อแตกตัวจะมีอนุภาคใหญ่เกินกว่าจะเข้าสู่ทางเดินหายในของมนุษย์ได้ จึงไม่นับเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งตรงกันข้ามกับใยหิน ผลิตภัณฑ์ฉนวนใยแก้วกันความร้อนที่ขายในท้องตลาด อาจมีลักษณะเป็นแผ่น หรือเป็นม้วน โดยจะมีทั้งรุ่นที่ผลิตมาสำหรับติดตั้งบนแปหลังคา ติดตั้งบนฝ้าเพดาน และติดตั้งที่ผนัง การใช้งานฉนวนใยแก้ว มีข้อควรระวังคือ ตัวฉนวนใยแก้วอาจทำให้ผิวหนังมีอาการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการแพ้วัสดุชนิดนี้ ดังนั้น ในการติดตั้งจึงควรสวมถุงมือและเสื้อผ้ามิดชิด เพื่อเลี่ยงการสัมผัสฉนวนใยแก้วโดยตรง

หน้าที่ของฉนวนกันความร้อนใยแก้วคือ ช่วยป้องกันความร้อนไม่ให้ผ่านเข้ามาในบ้าน โดยคุณสมบัติของตัวฉนวนจะมีค่ากันความร้อนหรือ “ค่า R” สูง (ค่า R จะมากขึ้นตามความหนาฉนวนด้วย) การติดตั้งฉนวนกันความร้อนจะเป็นการเพิ่มค่า R ให้กับบริเวณที่ติดตั้ง ไม่ว่าจะเป็น ผืนหลังคา ฝ้าเพดาน หรือผนัง

ติดฉนวนแล้วทำไมยังร้อน ?

        การที่บ้านจะร้อนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย สำหรับบ้านที่ติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่หลังคาหรือฝ้าเพดานก็จะช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดที่สองหลังคาไม่ให้เข้ามาในบ้านได้ แต่อย่าลืมว่า ความร้อนที่เกิดขึ้นในบ้านอาจมาจากส่วนอื่นได้ด้วย อย่างความร้อนจากแสงแดดที่ส่งผ่าน ผนัง ประตูหน้าต่าง หรือความร้อนจากการทำกิจกรรมในบ้าน ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทั้งนี้ ฉนวนกันความร้อนที่ติดตั้งนั้น นอกจากจะป้องกันไม่ให้ความร้อนจากนอกบ้านเข้าสู่ภายในบ้านแล้ว ความร้อนที่อยู่ภายในบ้านก็จะถูกฉนวนป้องกันไม่ให้ออกนอกบ้านด้วยเช่นกัน หรือพูดได้อีกอย่างว่า “ความร้อนไม่ได้ถูกระบายออกจากตัวบ้าน” จึงทำให้บ้านร้อนแทนที่จะเย็นนั่นเอง                     

ติดฉนวนอย่างไรให้บ้านเย็น ?

        แม้การติดฉนวนกันความร้อนที่หลังคาจะช่วยป้องกันความร้อนจากบริเวณหลังคาได้ แต่ในขณะเดียวกัน ความร้อนจากส่วนอื่นๆ ก็ควรป้องกันด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความร้อนจากผนัง โดยเฉพาะด้านที่โดนแดดแรงควรทำเป็นผนังทึบด้วยวัสดุที่มีค่า R สูง ไม่อมความร้อน และอาจติดตั้งฉนวนกันความร้อนเพิ่มเติม ด้วย สำหรับผนังส่วนที่จำเป็นต้องใช้กระจกใส อาจลดความร้อนโดยติดตั้งแผงบังแดดเพิ่ม ติดฟิล์มช่วยกันความร้อนบนกระจก นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ช่วยลดความร้อนได้ อย่างการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาบังแดด การเลือกใช้วัสดุที่มีค่า R สูง และไม่อมความร้อน เป็นต้น

อีกเรื่องสำคัญที่ลืมไม่ได้คือ การจะทำบ้านในเมืองร้อนให้เย็นได้นั้น “ควรมีการระบายอากาศที่ดี” เพื่อให้ความร้อนภายในบ้านสามารถระบายออกไปนอกบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าต่างที่เพียงพอในตำแหน่งเหมาะสม การทำช่องทางระบายอากาศ

บริเวณหลังคา (ติดตั้งฝ้าชายคาแบบมีรูระบายอากาศหรือทำเป็นระแนงเพื่อระบายอากาศ) เป็นต้น ทั้งนี้ หากบ้านติดตั้งอยู่ในบริเวณที่มีมลภาวะมาก อาจใช้อีกทางเลือกซึ่งต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วย คือ การปิดบ้านให้มิดชิดโดยติดตั้งอุปกรณ์ที่ดึงเอาอากาศจากภายนอกมาใช้ในบ้านผ่านระบบกรอง จากนั้น อากาศที่ใช้แล้วพร้อมความร้อนจะถูกปล่อยทิ้งออกไปนอกบ้าน

จะเห็นได้ว่า การแก้ปัญหาบ้านร้อนอาจไม่ใช่แค่การติดตั้งฉนวนกันความร้อนเพียงอย่างเดียว แต่ควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีส่วนในการป้องกันความร้อนในบ้านให้ครอบคลุม รวมถึงระบบระบายอากาศที่ดีเพื่อให้ความร้อนระบายออกไปจากบ้านได้ ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้อุณหภูมิในบ้านลดลง ทำให้สามารถอยู่อาศัยได้อย่างสบายมากขึ้น รวมถึงช่วยลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศได้ด้วย

4
บริการทำความสะอาด: ทำความสะอาดโซฟา ให้เนี๊ยบ ลดการสะสมของฝุ่น

ถ้าหากพูดถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สำหรับตกแต่งบ้านและสามารถใช้งานได้ที่เราคิดถึงหากจะเรามีบ้านสักหลัง และอยากจะมีเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สำหรับตกแต่งบ้านและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้แน่นอนว่า หลายคนต้องนึกถึงโซฟา ซึ่งต้องบอกว่าโซฟาเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่บ้านแทบจะทุกหลังต้องมีเพื่อตั้งอยู่ในห้องโถงหรือห้องนั่งเล่นภายในบ้าน ซึ่งบริเวณโซฟาเป็นจุดที่เราใช้งานมากที่สุดไม่ว่าจะใช้เป็นที่นั่งสำหรับดูทีวี ใช้เวลากับครอบครัว หรือแม้กระทั่งการต้อนรับแขกซึ่งตัวโซฟานี้เอง เป็นจุดที่เราจะต้องทำให้มีความสะอาดอยู่เสมอ เพราะโซฟา เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและฝุ่น

ดังนั้น การทำความสะอาดโซฟาแต่ละครั้ง แม่บ้านหลายคนอาจจะเกิดความหนักใจ ยิ่งถ้าเป็นโซฟาที่มีราคาแพงด้วยแล้วก็คงจะคิดหนักถ้าจะต้องทำความสะอาด เพราะกังวลว่า โซฟาอาจจะได้รับความเสียหายได้ถ้าหากทำความสะอาดแบบผิดวิธี และถ้ายิ่งเป็นโซฟาที่ทำมาจากผ้าด้วยแล้ว ก็อาจจะหาวิธีทำความสะอาดได้ยาก

ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับการทำความสะอาดโซฟาของคุณให้ดูสวยเนี๊ยบและช่วยลดการสะสมของฝุ่นด้วย สำหรับโซฟาที่มีฝุ่นเยอะ ก็จะเป็นจุดที่เป็นร่องระหว่างตัวพนักพิงกับบริเวณที่นั่งซึ่งในจุดนั้นจะมีฝุ่นอยู่มากพอสมควร แต่ก็มีวิธีการกำจัดฝุ่นไม่ยากมากนักถ้าหากเรารู้จักวิธีการทำความสะอาด

สำหรับการทำความสะอาดโซฟา ขั้นตอนเลยก็คือ การดูดฝุ่น โดยเน้นบริเวณซอกมุม เพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้าไปสะสมซึ่งในจุดนี้จะมีฝุ่นสะสมอยู่มากเลยทีเดียว บางครั้งเวลาที่เรานำของมารับประทานบนโซฟาก็อาจจะมีเศษอาหารเข้าไปติดในซอกนี้ได้และเมื่อปล่อยไว้นานๆอาจจะส่งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ดังนั้น เราควรที่จะดูดพวกฝุ่นและเศษขยะต่างๆออกมาให้หมดเสียก่อน

ต่อมาก็ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ด โดยนำผ้าชุบน้ำแล้วบิดให้แห้งหมาดๆ ระวังไม่ให้แฉะมากเช็ดไปตามพื้นผิวของหนังอย่างรวดเร็วเพื่อขจัดสิ่งสกปรกเบื้องต้นหากมีคราบน้ำหลงเหลือจากการเช็ดให้นำผ้าแห้งมาเช็ดอีกครั้ง เพราะหนังบางชนิดไม่ควรโดนน้ำแฉะๆจะสามารถทำให้หนังเปลี่ยนสีได้ ยิ่งถ้าหากเป็นโซฟาเป็นหนังอาจจะทำให้โซฟาพองได้และอาจจะเกิดความเสียหายได้ ซึ่งก็จะทำให้โซฟาของคุณเสื่อมสภาพเร็วขึ้นนั่นเอง

ในการทำความสะอาดโซฟานั้น ถ้าหากมีรอยหมึกปากกา แน่นอนว่าจะทำให้โซฟาของคุณดูไม่สวยงามให้แม่บ้านใช้แอลกอฮอล์เช็ดรอยเปื้อนของหมึก โดยนำสำลีก้านชุบแอลกอฮอล์และถูเบาๆ บริเวณที่เปื้อนพอหมึกเริ่มละลายออกให้เช็ดซ้ำด้วยผ้าอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะทำให้โซฟาของคุณสวยเหมือนซื้อมาใหม่เลยทีเดียว

แต่สำหรับคราบบนโซฟาที่ติดแน่น ไม่ว่าจะเป็นคราบอาหาร คราบเลือด ก็สามารถเช็ดออกได้โดยนำ แป้งข้าวโพดปริมาณ 2 ส่วนและน้ำมะนาวอีก 1 ส่วน ผสมให้เข้ากัน ก่อนนำไปเช็ดบริเวณรอยเปื้อน

แต่ถ้าหากมีรอยข่วนเพียงเล็กน้อย คุณสามารถใช้สำลีก้านชุบน้ำมันมะกอกหรือเบบี้ออยล์ทาบริเวณรอยให้รอบทิ้งไว้เป็นเวลา  5 นาที ก่อนเช็ดออกด้วยผ้าสะอาด ก็สามารถลดรอยขีดข่วนได้เป็นเช่นเดียวกัน

แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์หนังหรือโซฟาหนังที่เหมาะสมก็มีข้อห้าม นั่นก็คือ ห้ามใช้แอมโมเนีย สารฟอกสี หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฤทธิ์รุนแรงมาใช้กับโซฟาที่เป็นหนังเด็ดขาดเพราะจะทำให้สีของหนังลอกหรือเปลี่ยนสีได้ และไม่ควรใช้น้ำทำความสะอาดมากเกินไปเพราะจะทำให้หนังเกิดความเสียหายได้ ทั้งหมดนี้ก็คือเคล็ดลับดีๆที่

ทางเราได้นำมาแบ่งปันให้กับเหล่าแม่บ้านที่กังวลที่จะทำความสะอาดโซฟาภายในบ้านของคุณ

ถ้าเรารู้วิธีการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยทำให้เราสามารถทำความสะอาดได้อย่างถูกต้องแถมทำให้เฟอร์นิเจอร์ในบ้านของคุณไม่เกิดความเสียหายด้วยทั้งนี้เราอยากให้ทุกคนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี และห่วงใยสุขภาพของคนในบ้านเพื่อที่จะได้ห่างไกลจากเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพด้วย

5
หมอออนไลน์: ตาเข (Strabismus)

ตาเข (ตาเหล่ ตาเอก ก็เรียก) คือ อาการที่ตา 2 ข้างไม่อยู่แนวตรง ตาดำข้างใดข้างหนึ่งมีการเข (เฉียง) เข้าด้านใน (ทางหัวตา) เขออกด้านนอก (ทางหางตา) เฉียงขึ้น หรือเฉียงลง เนื่องจากมีภาวะผิดปกติของกล้ามเนื้อหรือระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวลูกตา ทำให้การเคลื่อนไหวลูกตาทั้ง 2 ข้างขาดการประสานงานเช่นคนปกติ (คนปกติจะเคลื่อนไหวลูกตาในลักษณะที่ประสานสอดคล้องกัน เพื่อให้มองเห็นภาพเป็น 3 มิติ โดยมีสมองเป็นตัวสั่งการมาที่กล้ามเนื้อกลอกลูกตาทั้ง 2 ข้าง)

โรคนี้พบได้บ่อยในทารกและเด็กเล็ก แต่ก็อาจพบในเด็กโตและผู้ใหญ่ได้


สาเหตุ

1. ในทารกแรกเกิด สายตายังเจริญไม่เต็มที่ อาจมีอาการตาเขได้บ้าง แต่ถ้าอายุเลย 6 เดือนไปแล้วยังมีอาการตาเขอยู่อีกก็ถือว่าผิดปกติ เรียกว่าตาเขแต่กำเนิด (congenital strabismus) ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ และพบว่าสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์

นอกจากนี้ในอาการตาเขในเด็กยังอาจมีสาเหตุจากสายตาผิดปกติ (เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง) หรือเกิดจากโรคต่าง ๆ เช่น สมองพิการ (cerebral palsy) กลุ่มอาการดาวน์ (Down’s syndrome) ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ (hydrocephalus) มะเร็งลูกตาในเด็ก เป็นต้น

2. ถ้าอาการตาเขเกิดขึ้นในภายหลังเมื่อพ้นวัยเด็กเล็ก มักจะเกิดจากกล้ามเนื้อกลอกลูกตาเป็นอัมพาตจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น อุบัติเหตุ ศีรษะได้รับบาดเจ็บ เนื้องอกสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) คอพอกเป็นพิษ (โรคเกรฟส์ที่มีอาการตาโปน) ไมแอสทีเนียเกรวิส ทริคิโนซิส โบทูลิซึม เป็นต้น


อาการ

ถ้าเป็นมาตั้งแต่กำเนิด เด็กมักจะไม่มีอาการอะไรนอกจากตาเข แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบแก้ไข ตาข้างที่เขจะมีสายตาพิการได้ ทั้งนี้เพราะเด็กจะไม่ใช้ตาข้างนั้นในการมอง (เพื่อหลีกเลี่ยงการเห็นภาพซ้อน โดยใช้ตาข้างที่ดีเพียงข้างเดียว) เมื่อไม่ใช้ตาข้างนั้นนาน ๆ เข้า สายตาก็จะเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ จนตาบอดในที่สุด เรียกภาวะนี้ว่า ตาขี้เกียจ (lazy eye/amblyopia)

ในรายที่เป็นตาเขตอนโต มักจะมีอาการเห็นภาพ 2 ภาพ (เห็นภาพซ้อน) หรืออาการตาล้าร่วมด้วย และอาจมีอาการของโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน เป็นต้น


ภาวะแทรกซ้อน

ในเด็กเล็กอาจตาข้างที่ผิดปกติเกิดภาวะตาขี้เกียจ (lazy eye/amblyopia) ทำให้ตาบอดได้

เด็กที่มีอาการตาเขอาจรู้สึกอับอาย เป็นปมด้อยในใจได้

ในผู้ใหญ่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ตาเข

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ รวมทั้งการใช้เครื่องตรวจวัดสายตาและการตรวจสุขภาพตาซึ่งมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน

ในผู้ใหญ่อาจต้องทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อค้นหาสาเหตุ เช่น ตรวจเลือด เอกซเรย์ ถ่ายภาพด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าพบอาการตาเขเป็นครั้งคราวในทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน จะเฝ้าติดตามดูอาการไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่มีสาเหตุที่ผิดปกติ ก็มักจะหายได้เองเมื่ออายุได้ 6 เดือน ถ้าอายุพ้น 6 เดือนแล้วยังไม่หาย แพทย์จะทำการตรวจหาสาเหตุ

2. ถ้าทารกมีอาการตาเขตลอดเวลา หรือพบในเด็กอายุมากกว่า 6 เดือน แพทย์จะให้ผู้ป่วยฝึกการใช้ตาข้างที่เข โดยการปิดตาข้างที่ดีด้วยการใส่ที่ครอบตาวันละหลายชั่วโมง เพื่อช่วยกระตุ้นให้ตาอีกข้างที่เกิดตาขี้เกียจได้ทำหน้าที่บ้าง ทำติดต่อนานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน

นอกจากนี้แพทย์จะแนะนำการบริหารตา ซึ่งเป็นการฝึกกล้ามเนื้อที่ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของลูกตา เพื่อช่วยให้ตาทั้ง 2 ข้างทำงานประสานงานกันได้ดี

ถ้ามีภาวะสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง ก็จะตัดแว่นตาใส่ การรักษาโดยวิธีดังกล่าวอาจช่วยให้เด็กบางคนหายตาเขได้ภายในไม่กี่เดือน

ถ้าตาเขมาก หรือรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล อาจต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัด

การรักษาอาการตาเขและตาขี้เกียจดังกล่าว ควรกระทำก่อนเด็กอายุได้ 3-5 ปี จะทำให้การมองเห็นกลับคืนสู่ปกติได้สูง ถ้าทำในช่วงอายุ 5-7 ปี อาการตาขี้เกียจต้องใช้เวลารักษานานขึ้น และถ้าทำเมื่ออายุมากกว่า 7 ปี การรักษาตาขี้เกียจมักไม่ค่อยได้ผล เพราะหลังวัยนี้ไปแล้ว ตาข้างที่เขอาจมีสายตาพิการอย่างถาวรจนยากที่จะแก้ไขได้

3. ถ้าพบอาการตาเขในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ที่สงสัยว่าอาจมีสาเหตุจากโรคอื่น ๆ แพทย์จะทำการตรวจหาสาเหตุ และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ ส่วนใหญ่ภายหลังการรักษาโรคที่เป็นสาเหตุให้หายแล้ว อาการตาเขมักจะหายได้ แต่ถ้าไม่หายอาจต้องใส่แว่น หรือทำการแก้ไขด้วยการฉีดสารโบทูลิน (โบท็อกซ์) หรือการผ่าตัด


การดูแลตนเอง

หากสงสัยมีอาการตาเข ตาเหล่ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นตาเข ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    สายตามีความผิดปกติมากขึ้น หรือใส่แว่นสายตาแล้วยังมองเห็นไม่ชัด
    มีอาการตาล้า หรือปวดศีรษะบ่อย
    สงสัยมีภาวะแทรกซ้อนหรือความผิดปกติอื่น ๆ เช่น ปวดศีรษะมาก ปวดตามาก ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน เห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบหรือแสงแฟลช หรือเห็นจุดดำคล้ายเงาหยากไย่หรือแมลงลอยไปมา เป็นต้น


การป้องกัน

อาการตาเขโดยกำเนิดซึ่งไม่ทราบสาเหตุยังไม่มีวิธีป้องกัน

ส่วนอาการตาเขที่เกิดจากสายตาผิดปกติ หรือสาเหตุอื่น ๆ อาจป้องกันหรือรักษาอาการตาเขได้ด้วยการป้องกันหรือแก้ไขสาเหตุที่ทำให้ตาเข เช่น ใส่แว่นสายตา การป้องกันการบาดเจ็บที่ตาและสมอง การควบคุมโรคที่เป็นอยู่ (เช่น เบาหวาน คอพอกเป็นพิษ เป็นต้น)


ข้อแนะนำ

1. ทารกทุกคนควรได้รับการตรวจกรองอาการตาเขเป็นระยะ ตั้งแต่อายุได้ 2-3 เดือน

2. อาการตาเขที่พบในทารกและเด็กเล็ก ควรนึกไว้เสมอว่า อาจมีสาเหตุผิดปกติซ่อนเร้นอยู่ และควรได้รับการรักษาก่อนอายุ 3-5 ปี อย่าเข้าใจผิดว่าโตขึ้นจะหายได้เอง มิเช่นนั้น เด็กอาจตาเขและสายตาพิการอย่างถาวรได้

6
ไอเดียแต่งบ้านสไตล์มินิมอล พร้อมเทคนิคการเลือกของตกแต่งบ้านให้สวยลงตัว                             

การแต่งบ้านสไตล์ มินิมอล (Minimalist) คือการสร้างสรรค์พื้นที่ที่เรียบง่าย สะอาดตา และเน้นฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลักค่ะ เป็นสไตล์ที่ตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป คงไว้ซึ่งความสงบและโปร่งสบาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความไม่ซับซ้อนและต้องการพื้นที่ที่ช่วยให้จิตใจสงบ ลองมาดูไอเดียง่ายๆ ในการแต่งบ้านพร้อมเทคนิคการเลือกของตกแต่งให้สวยลงตัวกันค่ะ

หลักการสำคัญของสไตล์มินิมอล
น้อยแต่มาก (Less is More): เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเท่าที่จำเป็นจริงๆ แต่เน้นคุณภาพและดีไซน์ที่โดดเด่น

ฟังก์ชันต้องมาก่อน (Form Follows Function): ทุกชิ้นต้องมีประโยชน์ใช้สอย ไม่ใช่แค่สวยงามอย่างเดียว

ความสะอาดและเป็นระเบียบ: บ้านสไตล์มินิมอลต้องจัดระเบียบอยู่เสมอ ไม่มีของวางเกะกะ หรือของที่ไม่จำเป็น

โทนสีเรียบง่าย: เน้นสีกลางๆ เป็นหลัก เพื่อให้รู้สึกสบายตาและสงบ

ไอเดียง่ายๆ ในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอล

1. กำหนดโทนสีหลัก

สีขาว: เป็นสีพื้นฐานที่ดีที่สุดสำหรับผนังและเพดาน เพื่อให้บ้านดูกว้างขวาง สว่าง และสะอาดตา

สีรอง: เพิ่มความอบอุ่นด้วยสีกลางๆ อย่าง สีเบจ ครีม เทาอ่อน หรือ สีไม้ธรรมชาติ สำหรับเฟอร์นิเจอร์หลักๆ และพื้นผิวอื่นๆ

สีเน้น (Accent Color): อาจมีสีเข้มหรือสีพาสเทลเล็กน้อยสำหรับของตกแต่งชิ้นเล็กๆ เพื่อไม่ให้บ้านดูจืดชืดเกินไป แต่ควรเป็นสีที่ไม่ฉูดฉาด หรือเป็นสีที่ได้จากธรรมชาติ เช่น สีเขียวจากต้นไม้


2. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เรียบง่ายและใช้งานได้จริง

จำเป็นเท่านั้น: เลือกเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็นจริงๆ เช่น เตียง โซฟา โต๊ะทำงาน ชั้นวางของที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต

ดีไซน์เรียบง่าย: เฟอร์นิเจอร์ควรมีรูปทรงเรขาคณิต เส้นสายสะอาดตา ไม่มีลวดลายแกะสลักหรือตกแต่งเยอะ

วัสดุ: เน้นวัสดุอย่าง ไม้เนื้ออ่อน (เช่น ไม้โอ๊ค เมเปิล) โลหะสีดำ/ขาวด้าน ผ้าฝ้าย ลินิน

ฟังก์ชันซ่อนเร้น: เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการจัดเก็บในตัว เช่น โซฟาเบด เตียงที่มีลิ้นชัก หรือ โต๊ะกลางที่มีช่องเก็บของ เพื่อซ่อนสิ่งของไม่ให้รกตา


3. การจัดวางและการจัดระเบียบ

เว้นพื้นที่ว่าง: จัดวางเฟอร์นิเจอร์โดยเหลือพื้นที่ว่างรอบๆ เพื่อให้บ้านดูโปร่ง โล่งสบาย ไม่แน่นทึบ

จัดระเบียบอยู่เสมอ: เก็บของให้เข้าที่เข้าทาง อาจใช้ กล่องเก็บของ หรือ ลิ้นชัก สำหรับซ่อนของที่ไม่อยากให้เห็น

พื้นที่แนวดิ่ง: ใช้ประโยชน์จากผนังด้วย ชั้นวางของลอยตัว เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของโดยไม่กินพื้นที่พื้น


4. แสงสว่าง

แสงธรรมชาติ: พยายามให้แสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านให้มากที่สุด อาจใช้ ผ้าม่านโปร่งแสงสีอ่อนๆ

โคมไฟ: เลือกโคมไฟที่มีดีไซน์เรียบง่าย ทันสมัย หรือสไตล์สแกนดิเนเวีย ให้แสงสี วอร์มไวท์ (Warm White) เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและความผ่อนคลาย


เทคนิคการเลือกของตกแต่งบ้านให้สวยลงตัว

ของตกแต่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มบ้านสไตล์มินิมอลให้มีชีวิตชีวา แต่ต้องเลือกอย่างพิถีพิถันและมีเป้าหมาย


1. เน้นเส้นสายเรียบง่าย

หลักการ: เลือกของตกแต่งที่มี รูปทรงเรขาคณิตที่ชัดเจน เช่น ทรงกลม สี่เหลี่ยม กระบอก หรือเส้นตรงที่สะอาดตา ไม่มีลวดลายซับซ้อน หรือรายละเอียดฟุ่มเฟือย

ตัวอย่าง: แจกัน ทรงกระบอกสีขาวเรียบๆ, โคมไฟ ฐานไม้ดีไซน์เส้นตรง, กรอบรูป ขอบบางสีดำหรือขาว


2. เลือกใช้วัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น/ทันสมัย

ไม้: เพิ่มความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เช่น แจกันไม้ ทรงเรียบๆ, กล่องเก็บของไม้, เชิงเทียนไม้

โลหะ: เพิ่มความโมเดิร์นและความเนี้ยบ เช่น แจกันโลหะ สีดำด้าน, โคมไฟตั้งโต๊ะ โครงโลหะ, นาฬิกาติดผนัง ดีไซน์บางเฉียบ

เซรามิก: ให้ความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น และเป็นงานศิลปะ เช่น แจกันเซรามิก ผิวด้าน, ชุดถ้วยกาแฟ สีขาว/เบจ

แก้ว: เพิ่มความโปร่ง โล่ง และหรูหราเล็กน้อย เช่น แจกันแก้วใส, ขวดสเปรย์หอม


3. เพิ่มชีวิตชีวาด้วย "สีเขียว" และ "กลิ่นหอม"

ต้นไม้: ต้นไม้มงคล หรือ ต้นไม้ฟอกอากาศ ที่ดูแลรักษาง่าย เช่น ลิ้นมังกร, ยางอินเดีย, มอนสเตอร่า, พลูด่าง ช่วยเพิ่มความสดชื่นและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ

เทคนิค: เลือก กระถางเซรามิก สีขาว เทา ดำ หรือกระถางดินเผาทรงเรียบง่าย ไม่มีลวดลายเยอะ

เครื่องหอม: เทียนหอม หรือ ก้านหอมปรับอากาศ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น กลิ่นชาขาว, ลาเวนเดอร์, ยูคาลิปตัส

เทคนิค: เลือกแบบที่มี บรรจุภัณฑ์สวยงาม และเรียบง่าย เช่น ขวดแก้วใส หรือภาชนะเซรามิก


4. สร้างจุดโฟกัสด้วยงานศิลปะ (แต่เพียงชิ้นเดียว)

ภาพวาด/ภาพถ่าย: เลือกภาพ Abstract ที่เน้นเส้นสายหรือสีสันที่เรียบง่าย, ภาพวาดเส้น (Line Art), ภาพถ่ายขาวดำ, หรือภาพวิวธรรมชาติที่องค์ประกอบไม่ซับซ้อน

กรอบ: ใช้ กรอบไม้สีอ่อน กรอบโลหะสีดำ/ขาว หรือกรอบที่เรียบง่ายที่สุด เพื่อไม่ให้แย่งซีนตัวภาพ

การจัดวาง: แขวนบนผนังโล่งๆ เพียง 1 ชิ้น หรือวางบนชั้นวาง โดยเว้นพื้นที่รอบๆ ให้ดูโปร่ง


5. ผ้าตกแต่งช่วยเพิ่มสัมผัส

หมอนอิง/ผ้าคลุม: เลือกสีพื้น หรือลายตาราง/ลายทางเล็กๆ ในโทนสีเดียวกับห้อง วัสดุควรเป็น ผ้าฝ้าย ลินิน หรือผ้าถักที่ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย

การจัดวาง: วางบนโซฟาหรือเตียงเพื่อเพิ่มความอบอุ่นและเท็กซ์เจอร์

การแต่งบ้านสไตล์มินิมอลไม่ได้หมายความว่าต้องไม่มีของตกแต่งเลย แต่เป็นการ เลือกสรรของที่มีคุณค่า มีความหมาย และใช้งานได้จริง มาจัดวางอย่างเรียบง่าย เพื่อสร้างพื้นที่ที่สงบ เป็นระเบียบ และสวยงามเหนือกาลเวลาค่ะ

คุณมีของตกแต่งบ้านชิ้นไหนที่สนใจเป็นพิเศษไหมคะ? จะได้ช่วยแนะนำเพิ่มเติมได้ตรงจุดมากขึ้นค่ะ

7
จัดฟันบางนา: วิธีป้องกันการเกิดคราบหินปูนบนฟัน

การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ทุกคนจะต้องเอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ รวมไปถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการรับประทานอาหารนั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากและฟันโดยตรง ซึ่งเราจะต้องระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหาร ไม่ควรบดเคี้ยวอาหารแรงๆ เพราะอาจจะเกิดความเสียหายต่อฟันของเราได้ และอาจจะทำให้เกิดรอยบนผิวฟัน ทำให้เกิดฟันผุ ซึ่งสาเหตุของการเกิดฟันผุนั้นก็เกิดได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันได้ไม่ดีเท่าที่ควร และการเกิดคราบบนผิวฟันแล้วทำความสะอาดออกไม่หมด จึงทำให้เกิดฟันผุ

นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา ไม่ว่าจะเป็นฟันผุ มีกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ และเป็นสาเหตุจนนำไปสู่การสูญเสียฟันได้ สำหรับวันนี้ทางคลินิกเราวิธีการป้องกันคราบบนผิวฟัน เพื่อให้เราได้เป็นแนวทางในการลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันอีกทางหนึ่ง ทำให้เรามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี สำหรับใครที่สนใจเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันหรือบริการทางด้านทันตกรรม สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำจากคลินิกได้ ทางเรามีทันแพทย์ที่สามารถให้คำแนะนำได้อย่างดี และทำให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณจะมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

ทางคลินิกเราจะมาแนะนำวิธีการป้องกันการเกิดคราบบนผิวฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุและปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากในด้านอื่นๆอีกมากมาย หลายคนอาจจะใช้วิธีการรักษาด้วยการฟอกสีฟัน ซึ่งปัญหาจากคราบบนผิวฟันนั้น ส่งผลให้ฟันของเรามีสีที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ต้องบอกก่อนว่า การเข้ารับการรักษาด้วยการฟอกสีฟันนั้น ไม่ว่าสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของสีฟันได้อย่างถาวร บางครั้งเมื่อเวลาผ่านไปอาจจะทำให้ฟันมีสีคล้ำขึ้นเรื่อยๆ และทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้เกิดคราบบนผิวฟัน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาและป้องกันการเกิดการเปลี่ยนสีของฟันได้อย่างดี ทำให้เรามีฟันที่ขาวสะอาด ดูเป็นธรรมชาติได้อย่างยาวนาน


ซึ่งวิธีการป้องกันการเกิดคราบบนผิวฟัน เราควรทำความสะอาดฟันและช่องปากให้ดีอยู่เสมอ โดยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และควรที่จะใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย หลังจากการแปรงฟันให้บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ หรือใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ เพื่อลดการสะสมของคราบหินปูนและแบคทีเรียบนเนื้อฟัน ที่สำคัญพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ก็ควรลดการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดราบบนฟัน เช่น ชา กาแฟ ลูกอม หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดคราบบนผิวฟันและยังส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากและฟัน รวมไปถึงสุขภาพโดยรวมด้วย ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันอย่างน้อยปีละ 1 – 2 ครั้ง เพื่อทำความสะอาดช่องปากและฟันให้สะอาด ปราศจากคราบหินปูนอยู่เสมอ

ซึ่งคราบหินปูน เป็นคราบสกปรกติดแน่นอยู่ที่ผิวฟัน เกิดจากการละเลยสุขภาพช่องปากหรือทำความสะอาดแบบไม่ทั่วถึง นอกจากจะส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ ทำให้ไม่กล้าอวดรอยยิ้มให้ใครเห็นแล้ว อาจจะส่งผลทำให้เรามีกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ด้วย ทั้งนี้ คราบหินปูนยังก่อให้เกิดโรคเหงือกและฟันหลายชนิดตามมาได้ ซึ่งการทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกต้อง และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ จะช่วยป้องกันการเกิดคราบหินปูนได้ ซึ่งวิธีการป้องกันการเกิดคราบบนผิวฟันอีกวิธีการหนึ่งคือ เราควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ ผู้เข้ารับการรักษาควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เป็นส่วนผสม เพราะสารชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมเคลือบฟันที่ถูกทำลาย

นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพของยาสีฟันด้วยการเพิ่มไตรโคลซานเข้าไปเป็นส่วนผสมด้วย ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียในคราบพลัคได้นั่นเอง ทางคลินิก เราอยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อให้เราได้มีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ และมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

8
คอนโดติดรถไฟฟ้า เสนาคิทท์ สุขุมวิท - บางปู (Sena Kith Sukhumvit - Bangpu)
เริ่มต้น 0.99 ลบ.

เสนาคิทท์ สุขุมวิท - บางปู (Sena Kith Sukhumvit - Bangpu)
เตรียมพบกับคอนโดใหม่ บนทำเลศักยภาพ ติดถนนใหญ่ ใกล้แหล่งงานนิคมอุตสาหกรรม เชื่อมต่อชีวิตคนเมือง ใกล้ BTS สถานีเคหะฯ

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ              เสนาคิทท์ สุขุมวิท - บางปู (Sena Kith Sukhumvit - Bangpu)
 เจ้าของโครงการ         เสนาดีเวลลอปเม้นท์
 แบรนด์ย่อย               เสนา คิทท์
 ราคา                      เริ่มต้น 0.99 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล              คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด            Low Rise (ไม่เกิน 8 ชั้น)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ขนาดห้องที่มี             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 เนื้อที่ทั้งหมด              โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนตึก                  6 อาคาร
 จำนวนชั้น                  5 ชั้น
 จำนวนห้อง               324 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด         โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ค่าบำรุงส่วนกลาง        โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน             สมุทรปราการ, บางพลี, บางบ่อ, พระประแดง
 ที่ตั้ง              ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:                โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
เทสโก้ โลตัส บางปู
แมคโคร บางปู
อิเกียบางนา
Jas Urban ศรีนครินทร์
โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ
โรงเรียนเซนต์โยเซฟ ทิพวัล
สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์
โรงพยาบาลศิครินทร์ สมุทรปราการ (บางปูใหม่)
โรงพยาบาลสมุทรปราการ, โรงพยาบาลบางนา 5
โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
โรงพยาบาล สินแพทย์ เทพารักษ์

9
ปล่อยรถผู้บริหาร Mercedes-Benz AMG GLC43 4Matic Coupe facelift ปี 2021

Mercedes-Benz AMG GLC43 4MATIC Coupe Facelift ปี 2021 เป็นรถยนต์ที่ผสมผสานความสปอร์ตของ AMG เข้ากับความอเนกประสงค์ของ SUV ในสไตล์ Coupe ที่โฉบเฉี่ยว ถือเป็นรุ่นที่ได้รับการปรับโฉม (facelift) ที่มีการอัปเกรดทั้งในด้านสมรรถนะ ดีไซน์ และเทคโนโลยีภายใน

ภาพรวมและจุดเด่น
ดีไซน์: โดดเด่นด้วยรูปทรงแบบ SUV Coupe ที่หลังคาลาดเอียงลงด้านท้าย ให้ความรู้สึกสปอร์ตและปราดเปรียวมากขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น Facelift ปี 2021 มีการปรับดีไซน์กระจังหน้า Panamericana Grille อันเป็นเอกลักษณ์ของ AMG ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ และกันชนหน้า-หลังที่ดุดันยิ่งขึ้น

สมรรถนะ: หัวใจหลักของ AMG คือสมรรถนะที่เร้าใจ ในรุ่นปี 2021 นี้ GLC43 Coupe ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 Twin-Turbo ขนาด 3.0 ลิตร ซึ่งได้รับการปรับจูนเพิ่มกำลังเป็น 390 แรงม้า (จากเดิม 367 แรงม้า) และแรงบิด 520 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในประมาณ 4.9 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC ที่เน้นการส่งกำลังไปที่ล้อหลัง (Rear-biased torque distribution: 31% หน้า / 69% หลัง) เพื่อความรู้สึกในการขับขี่ที่สปอร์ตยิ่งขึ้น

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 11 มิ.ย. - 30 มิ.ย. 2568

ราคาพิเศษ 2,890,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

รายละเอียดทางเทคนิค (โดยประมาณสำหรับรุ่น 2021 Facelift)

เครื่องยนต์: เบนซิน V6 Twin-Turbo
ความจุ: 2,996 ซีซี (3.0 ลิตร)
กำลังสูงสุด: 390 แรงม้า ที่ 5,500-6,100 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด: 520 นิวตันเมตร ที่ 2,500-5,000 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด
ระบบขับเคลื่อน: 4MATIC All-Wheel Drive
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ประมาณ 4.9 วินาที
ความเร็วสูงสุด: 250 กม./ชม. (จำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์)



10
หมอออนไลน์: แผลพุพอง (Impetigo/Ecthyma)

แผลพุพอง เป็นการอักเสบของผิวหนังแบบหนึ่งซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักพบในทารกและเด็กวัยเรียนที่มีสุขอนามัยที่ไม่ดี ไม่ค่อยดูแลความสะอาดของตัวเอง หรือมีบาดแผลเล็กน้อยก็ปล่อยปละละเลย โรคนี้ติดต่อกันง่ายภายในบ้าน สถานเลี้ยงเด็ก และโรงเรียน

สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียสแตฟีโลค็อกคัสออเรียส หรือสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

1. แผลพุพองชนิดตื้น (impetigo) เป็นการติดเชื้อของหนังกำพร้าชั้นนอกสุด (stratum corneum) เป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่ขาดการรักษาความสะอาด และไม่ใส่ใจดูแลบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายและรวดเร็ว ติดต่อโดยการสัมผัสถูกผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่ก่อน หรือสัมผัสถูกเชื้อที่ปนเปื้อนตามสิ่งของเครื่องใช้ที่ผู้ป่วยสัมผัส เชื้อจะเข้าสู่ผิวหนังทางรอยถลอก

2. แผลพุพองชนิดลึก (ecthyma) เป็นการติดเชื้อลึกถึงชั้นหนังแท้ มักพบในเด็กวัยเรียนหรือผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักรักษาความสะอาด ผิวหนังสกปรก ไว้เล็บยาว ไม่ใส่ใจดูแลบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น รอยถลอกรอยขีดข่วน รอยแผลจากยุง แมลงกัด หรืออาจพบเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น หิด เหา อีสุกอีใส เริม งูสวัด ผื่นแพ้ ผื่นคัน เป็นต้น

อาการ

1. แผลพุพองชนิดตื้น แสดงอาการได้ 2 แบบ

แบบที่ 1 เกิดจากการติดเชื้อสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ แรกเริ่มเป็นผื่นแดงและคัน ต่อมาจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสเล็ก ๆ มีฐานสีแดง ต่อมากลายเป็นตุ่มหนอง ซึ่งจะแตกง่าย กลายเป็นสีแดง และมีน้ำเหลืองเหนียว ๆ ติดเยิ้ม แล้วกลายเป็นสะเก็ดเหลืองกรังติดอยู่ มีลักษณะคล้ายรอยบุหรี่ เมื่อผื่นอันแรกแตก มักจะมีผื่นบริวารขึ้นตามในบริเวณข้างเคียงหลาย ๆ อัน และอาจลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการเกา

บางรายอาจมีไข้ต่ำหรือต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย มักขึ้นตามใบหน้า ใบหู จมูก ปาก ศีรษะ ก้น และบริเวณนอกร่มผ้า (เช่น มือ ขา หัวเข่า) เมื่อหายแล้วจะไม่เป็นแผลเป็น

ถ้าเป็นพุพองที่ศีรษะ ชาวบ้านเรียกว่า ชันนะตุ

แบบที่ 2 เกิดจากการติดเชื้อสแตฟีโลค็อกคัสออเรียส ซึ่งพบได้น้อยกว่าแบบที่ 1 มีอาการพุขึ้นเป็นตุ่มน้ำพอง ฐานไม่แดง ระยะแรกน้ำภายในตุ่มพองมีลักษณะใส ต่อมาจะเริ่มขุ่น แล้วบางตุ่มจะแตก มีน้ำเหลืองแห้งกรังเป็นสีน้ำตาล ในทารกที่ยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ มักมีไข้ และตุ่มน้ำพองมีขนาดใหญ่

2. แผลพุพองชนิดลึก (อาจเกิดจากสแตฟีโลค็อกคัสออเรียส หรือสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอก็ได้) แรกเริ่มขึ้นเป็นตุ่มแดง ตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนองเล็ก ๆ มีฐานสีแดง แล้วโตขึ้นช้า ๆ มีขนาด 1-3 ซม. ต่อมามีสะเก็ดหนาปกคลุม ลักษณะเป็นสะเก็ดแข็งสีคล้ำติดแน่น ข้างใต้เป็นน้ำหนอง ถ้าเป็นนาน ๆ ขอบแผลจะยกนูนออกเป็นสีคล้ำ เมื่อหายแล้วจะกลายเป็นแผลเป็น มักพบที่บริเวณขา

ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่มักดูแลรักษาให้หายขาด และไม่มีภาวะแทรกซ้อน และส่วนใหญ่ไม่เป็นแผลเป็น ยกเว้นในรายที่เป็นแผลพุพองชนิดลึกที่มักเป็นแผลเป็นเมื่อหายแล้ว

ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่แรกอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เชื้อลุกลามกลายเป็น เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นลึกอักเสบ (cellulitis) และเชื้ออาจลุกลามเข้ากระแสเลือด ทำให้เป็นโลหิตเป็นพิษได้ ถ้าพบในทารก อาจมีอันตรายร้ายแรงได้

ในรายที่เกิดจากเชื้อบีตาฮีโมไลติกสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ อาจทำให้เป็นหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันได้ (มีอาการไข้สูง บวมทั้งตัว ปัสสาวะสีแดง)

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ในบางรายแพทย์อาจนำหนองจากรอยโรคไปตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. อาบน้ำฟอกด้วยสบู่วันละ 2 ครั้ง และใช้น้ำด่างทับทิมชะล้างเอาคราบสะเก็ดออกไป

สำหรับแผลพุพองที่มีสะเก็ดแข็ง ทำการประคบด้วยน้ำอุ่นจัด ๆ และชุ่ม ๆ เพื่อให้สะเก็ดนุ่มและหลุดออกเร็ว

2. ถ้าคันมากให้ยาแก้แพ้ เช่น คลอร์เฟนิรามีน

3. ทาแผลด้วยขี้ผึ้งเตตราไซคลีน หรือครีมเจนตาไมซิน หรือเจนเชียนไวโอเลต หลังอาบน้ำทุกครั้ง

4. ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนิซิลลินวี, อีริโทรไมซิน, ไดคล็อกซาซิลลิน, โคอะม็อกซิคลาฟ เป็นต้น เป็นเวลา 5-7 วัน สำหรับเชื้อสแตฟีโลค็อกคัส

สำหรับเชื้อสเตรปโตค็อกคัสจะให้กินยานาน 10 วัน เพื่อป้องกันโรคหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันใน

สำหรับแผลพุพองชนิดลึก (ที่มีสะเก็ดแข็งสีคล้ำติดแน่น) จะให้กินยานาน 2-3 สัปดาห์

5. ถ้าไม่ดีขึ้นหรือพบในทารก แพทย์จะนำหนองจากรอยโรคไปทำการย้อมเชื้อหรือเพาะเชื้อ และให้ยาปฏิชีวนะตามชนิดของเชื้อที่ตรวจพบ

การดูแลตนเอง

หากสงสัยเป็นแผลพุพอง ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นแผลพุพอง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    ลดการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น โดยหยุดไปสถานเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียน และพักอยู่ที่บ้านจนกว่าจะไม่แพร่เชื้อ (คือ หลังกินยาปฏิชีวนะได้ 24 ชั่วโมงไปแล้ว), ชะล้างแผลให้สะอาดและใช้ผ้าปิดแผล, หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่, ตัดเล็บให้สั้น, ไม่ใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้อื่น

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 2-3 วัน
    มีไข้สูง หนาวสั่น ซึม เบื่ออาหาร เท้าบวม ปัสสาวะเป็นสีแดง หรือมีอาการชัก
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

    หมั่นรักษาความสะอาดของผิวหนัง
    หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่
    ตัดเล็บให้สั้น
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสถูกแผลพุพองที่ผู้ป่วยเป็น
    ไม่ใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้ป่วย
    หากมีบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือโรคผิวหนัง (เช่น หิด เหา เริม งูสวัด อีสุกอีใส) ควรให้การดูแล อย่างจริงจัง

ข้อแนะนำ

แผลพุพองชนิดตื้นที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัสกลุ่มเอ ควรกินยาปฏิชีวนะให้ครบระยะเวลาตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันหน่วยไตอักเสบเฉียบพลัน

11
การจัดฟันเด็ก ช่วงที่ยังมีฟันน้ำนม แตกต่างจากช่วงที่มีฟันแท้ขึ้นครบแล้วอย่างไร

ฟันน้ำนมของเด็ก ถือว่ามีบทบาทสำคัญในลำดับขั้นพัฒนาการของเด็กเลยทีเดียว นอกจากจะเป็นตำแหน่งที่จะเกิดฟันแท้มาแทนที่ ยังช่วยในเรื่องลักษณะทางกายภาพให้มีโครงสร้างร่างกายเป็นปกติ มีฟันไว้ช่วยบดเคี้ยวอาหาร หากฟันน้ำนมมีสุขภาพดี ไม่ผุกร่อนหรือติดเชื้อ ก็จะส่งเสริมพัฒนาการฟันแท้ที่จะงอกตามมาให้สมบูรณ์แข็งแรงไปด้วย นี่จึงเป็นสาเหตุที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะดูแลรักษาความสะอาดฟันของเด็กให้ดี

เพราะฉะนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรให้เด็กแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน แปรงฟันให้เด็ก หรือช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง รักษาความสะอาดของช่องปากอยู่เสมอ บ้วนปาก แปรงฟัน หลังรับประทานอาหาร หรืออาจใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดฟันเพิ่มเติม และควรให้เด็กรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ และจำกัดปริมาณอาหารหรือขนมขบเคี้ยวที่ไม่มีประโยชน์ เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ นอกจากนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็คสุขภาพฟันเป็นประจำ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันในอนาคตของเด็ก หรือถ้าเด็กมีปัญหาในเรื่องของฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะเด็กๆเข้ารับการจัดฟันในเด็ก เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องของความผิดปกติของฟัน

สำหรับการจัดฟันในเด็กนั้น สามารถแก้ไขปัญหาได้แทบทุกกรณี ทั้งยังช่วยทำให้เด็กมีโครงสร้างของใบหน้าที่ดีขึ้นด้วย ซึ่งการจัดฟันในเด็กที่มีอายุ 4-7 ปี เหมาะสำหรับการจัดฟันด้วยเครื่องมือ EF line เพราะเป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ

ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโตซึ่ง ซึ่งสามารถแกไขปัญหาฟันได้ตั้งแต่เด็กยังมีฟันน้ำนม ซึ่งพ่อแม่ที่อยากพาเด็กเข้ารับการจัดฟัน บางท่านอาจจะมีข้อสงสัยว่า การพาเด็กเข้ารับการจัดฟันในช่วงฟันน้ำนมกับช่วงที่มีฟันแท้ขึ้นครบแล้ว แตกต่างกันอย่างไร วันนี้ทางคลินิกจะมาพูดถึงความแตกต่างของการจัดฟันในเด็ก ในช่วงฟันน้ำนมและฟันแท้ว่ามีความแตกต่างอย่างไร และการจัดฟันในเด็กช่วงไหนดีที่สุด เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เป็นแนวทางพาบุตรหลานเข้ารับการจัดฟันในเด็ก

จริงๆแล้วการจัดฟันในเด็ก คุณพ่อคุณแม่สามารถนำเด็กๆ อายุต่ำว่า 10 ปี มาตรวจกับทันตแพทย์จัดฟันได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่น แนะนำให้พาเด็กอายุ 7-10 ปี ไปตรวจกับทันตแพทย์จัดฟัน เพราะหากพบปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ เด็กวัยนี้ก็สามารถจัดฟันได้แล้ว ถ้าเด็กในวัยนี้เหมาะสำหรับการจัดฟัน EF Line อย่างไรก็ตาม การจัดฟันในวัยเด็ก หรือระยะชุดฟันผสมเป็นระยะที่ฟันหน้าและฟันกรามถาวรซี่แรกขึ้นเรียบร้อยแล้ว ควรจัดฟัน เพื่อแก้นิสัยหรือความผิดปกติที่เกิดจากขากรรไกร โดยเครื่องมือชักนำและปรับเปลี่ยนทิศทางการเจริญเติบโตของขากรรไกร ต่อมาในช่วงวัยรุ่น หรือระยะฟันถาวร เป็นระยะที่ฟันถาวรทุกซี่ยกเว้นฟันกรามซี่ที่ 3 ขึ้นเรียบร้อยแล้ว เป็นระยะที่เหมาะสมในการจัดฟันเพื่อแก้ไขตำแหน่งฟันที่มีความผิดปกติ

และในวัยผู้ใหญ่การจัดฟันจะสามารถแก้ไขได้เฉพาะความผิดปกติของตำแหน่งฟัน ดังนั้น การจัดฟันในด็กตั้งแต่ยังมีฟันน้ำนมจะมีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะสามารถแก้ไขความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และช่วยป้องกันฟันที่ขึ้นอย่างผิดปกติด้วย

หากใครสนใจพาบุตรหลานของ่ทานเข้ารับการจัดฟันในเด็ก ก็สามารถพาบุตรหลานเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการจัดฟันได้ โดยติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟันในเด็ก และสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนที่สุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อที่จะได้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง

12
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”

สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


13
ปล่อยรถป้ายแดง Hyundai H1 2.5 Elite Ns ปี 2022 ฟรีประกันชั้น1 ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

Hyundai H1 2.5 Elite NS ปี 2022 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) ขนาดใหญ่ 11 ที่นั่ง ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยความกว้างขวาง ความสะดวกสบาย และความคุ้มค่า ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ เช่น รถรับส่ง

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 11 มิ.ย. - 30 มิ.ย. 2568
วารันตีศูนย์ 5ปี ถึง150,000 โล,ประกันชั้น1 เหลือ11 เดือน
ฟิล์มกันรอยทั้งคัน,book service กุญแจครบ2 ดอก
รับประกันไม่มีชนหนัก พลิกคว่ำ น้ำท่วม ไมล์แท้ การันตี

ราคาพิเศษ 1,090,000 บาท

สนใจสอบถา มรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

ขุมพลังและสมรรถนะ

เครื่องยนต์: ดีเซล รหัส D4CB แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว
ขนาด 2,497 ซีซี (2.5 ลิตร)
เทอร์โบแปรผัน (Variable Geometry Turbocharger - VGT) พร้อม Intercooler
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง: Commonrail Direct Injection
กำลังสูงสุด: 175 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด: 441 นิวตันเมตร ที่ 2,000 - 2,250 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อม Sequential Shift
มาตรฐานไอเสีย: EURO 4
ความจุถังน้ำมัน: 75 ลิตร
ระบบขับเคลื่อน: ล้อหลัง


14
ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์: ดอกเบี้ยมีกี่ประเภท? ตอนนี้เลือกดอกเบี้ยเงินกู้แบงก์ไหนดี

สิ่งสำคัญในการขอสินเชื่อหรือกู้เงินก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง "ดอกเบี้ย" นะคะ เพราะดอกเบี้ยก็คือเงินที่เราต้องชำระคืนแต่ละงวดนั่นเอง ก่อนขอสินเชื่อก็ต้องดูให้ดีนะคะว่าดอกเบี้ยเงินกู้แบงก์ไหนดี และแต่ละสินเชื่อก็จะมีประเภทของดอกเบี้ยแยกย่อยแตกต่างกันออกไป และยังมีวิธีคำนวณต่างกันด้วย ใครที่กำลังมีแผนจะขอสินเชื่อไม่ว่าจะเป็นสินเชื่ออะไร ลองไปทำความรู้จักดอกเบี้ยประเภทต่างๆ ให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ มีกี่ประเภท มีอะไรบ้าง

ดอกเบี้ยเงินกู้แบงก์ไหนดี
✅ ดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate)
คือ อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ตายตัว ไม่ปรับขึ้น-ลง คงที่ตลอดอายุสัญญาเช่น กำหนดให้ชำระดอกเบี้ย 7% ต่อปี เป็นเวลา 4 ปี เป็นต้น ดูเพิ่มเติม ดอกเบี้ยคงที่ VS ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก แบบไหนผ่อนสบาย

 ✅ ดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate)
คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เปลี่ยนแปลงไปตามต้นทุนของสถาบันการเงิน เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่น อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เช่น MLR MOR MRR เป็นต้น ดูเพิ่มเติม 10 อันดับ อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ MLR MOR และ MRR

 ✅ ดอกเบี้ยแบบผสม (Mixed Rate Loan)
คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นในช่วงแรก จากนั้นจะปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เช่น 4 ปีแรก ดอกเบี้ยคงที่ หลังจากนั้นปรับเป็นดอกเบี้ยลอยตัว หรืออาจเป็นดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันได จากนั้นค่อยปรับเป็นดอกเบี้ยลอยตัว

 ✅ ดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่งและปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา (Rollover Mortgage Loan)
คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่ง เช่น 3 ปี หรือ 5 ปี และปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา 3 หรือ 5 ปี ตลอดระยะเวลากู้นาน 25-30 ปี ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แต่ละช่วงจะคงที่โดยอิงกับต้นทุนพันธบัตรที่บวก 2.5% เช่น หากต้นทุนพันธบัตร 5% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะเท่ากับ 7.5% เป็นต้น

 เห็นมั้ยล่ะคะ...ดอกเบี้ยสำคัญกับการกู้เงินมากนะ เพราะสินเชื่อแต่ละแบบก็จะมีประเภทของดอกเบี้ยต่างกันออกไป การมีความรู้ไว้ว่าดอกเบี้ยแบบนี้คืออะไร เกี่ยวข้องกับสืนเชื่อไหนถือเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเลยนะคะ

15
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)
ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”
‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)


สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


หน้า: [1] 2 3 ... 45