head prakardsod






























































ผู้เขียน หัวข้อ: motor show: โตโยต้า คัมรี่ HEV ใหม่ ... พรีเมียม ลักซ์ชัวรี  (อ่าน 9 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 393
    • ดูรายละเอียด
motor show: โตโยต้า คัมรี่ HEV ใหม่ ... พรีเมียม ลักซ์ชัวรี
« เมื่อ: วันที่ 23 ตุลาคม 2024, 17:43:34 น. »
motor show: โตโยต้า คัมรี่ HEV ใหม่ ... พรีเมียม ลักซ์ชัวรี

หลังเปิดตัว โตโยต้า ALL-NEW CAMRY HEV ซีดานขนาดกลางพลังไฮบริด ไปเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา 5 วันให้หลังทางโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ก็จัดทดสอบการขับทางไกลให้กับสื่อมวลชนสายรถยนต์ได้สัมผัสขับรถจริงเป็นกลุ่มแรกเมื่อ 15-16 ตุลาคม 2567 โดยใช้เส้นทางจังหวัด กระบี่-พังงา-ภูเก็ต รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 280 กม. เพื่อให้ได้เข้าถึงสมรรถนะรอบด้าน รวมทั้งความสะดวกสบาย ระบบความปลอดภัย และอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย
 
เริ่มทริปทดสอบขับทางไกลครั้งนี้มีผู้เขียนตัวแทนจากเพจ Carguru Thailand และเว็บไซต์ Checkraka.com พร้อมกลุ่มสื่อมวลชนด้วยกันกว่า 30 คน เริ่มเดินทางจากกรุงเทพฯ บินพร้อมกันไปลงสนามบินนานาชาติกระบี่ในช่วงเช้าพร้อมเตรียมพร้อมกันที่ร้าน Cafe Tary เพื่อฟังรายละเอียดของตัวรถออล-นิว คัมรี ที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญของระบบขับเคลื่อนพอสรุปได้คือ

กล่องอีซียูของ เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร (บล็อคเดิมแต่รวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแล้วได้กำลังเพิ่มจากรุ่นเดิม 16 แรงม้า) ได้รับการจูนซอฟต์แวร์ใหม่
เกียร์ E-CVT เปลี่ยนใหม่ รวมทั้งน้ำมันเกียร์ด้วยใช้ตัวเดียวกับเล็กซัส (มอเตอร์ 1 สตาร์ทเครื่องยนต์ เจเนอเรเตอร์ 1 กำเนิดกระแสไฟฟ้า ส่วนมอเตอร์  2 ขับเคลื่อนล้อ เจเนอเรเตอร์ 2 รีเจนฯเบรก)
เปลี่ยนชุดอินเวอร์เตอร์และตัวแปลงไฟใหม่
ปรับวางเพลาข้อเหวี่ยง-เพลาขับ-พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าให้อยู่ระนาบเดียวกัน
ช่วงล่างจูนใหม่ แฮนด์ลิ่งดีขึ้น ขับสบายขึ้น EPS ใช้ซอฟต์แวร์ใหม่ ระบบบเบรกใหม่ตอบสนองดีขึ้น
ระบบโตโยต้า เซฟตี้ เซนส์ เปลี่ยนเรดาร์และกล้องใหม่

หลังจากรับฟังรายละเอียดแบบเจาะลึกและบริฟเส้นทางพร้อมเบอร์และรุ่นรถที่ได้ขับ ซึ่งเป็นรุ่น Premium Luxury ก็เตรียมตัวออกเดินทางโดยคันผู้เขียนได้จับคู่กับมือทดสอบจากทางสื่อสากลสลับขับ ช่วงแรกผู้เขียนนั่งในตำแหน่งเบาะแถวหลังเพื่อสัมผัสความสะดวกสบายที่คัมรี่เน้นให้กับผู้โดยสารตอนหลัง โดยเฉพาะรุ่นท็อปที่มีจอสัมผัสให้ควบคุมและปรับองศาพนักพิงหลังจากที่เท้าแขนกลางได้อิสระ ด้วยระยะทางกว่า 80 กม. จากจังหวัดกระบี่สู่พังงาเราแวะพักที่ปั้มน้ำมันเพื่อเบรกและสลับผู้ขับ จากที่ได้นั่งเบาะหลังทางไกลมาพอสรุปได้ว่า วัสดุเบาะให้สัมผัสที่สบายนุ่มนวล ตัวเบาะออกแบบได้ดีทั้งพนักพิงที่แยกปรับเอนแบบไฟฟ้าได้องศาเยอะ พื้นที่รอบตัวกว้างโปร่งสบาย เบาะนั่งจมได้นาน พอร์ตยูเอสบีไทป์ C 2 ตำแหน่งใต้ช่องแอร์หลังให้ความสะดวกในการเสียบชาร์จอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน ระดับเสียงรบกวนอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ การระบายความร้อนของแบตเตอรี่ทางด้านหลังไม่มีรบกวนเข้ามา แต่ช่องแอร์หลังดูธรรมดาไปหน่อยแม้จะใช้งานได้ดีก็ตาม ส่วนตัวน่าปรับให้ดูหรูกว่าานี้ สำหรับอัตราสิ้นเปลืองที่วัดได้จากหน้าจอข้อมูลด้านหน้า อยู่ที่ 18.4 กม./ลิตร กับการขับเสมือนการขับท่องเที่ยวทางไกลจริงๆ มีทั้งเร่งแซง ขับเร่งขึ้นทางลาดชัน


ช่วงที่ 2 ผู้เขียนสลับมาขับออล-นิว โตโยต้า คัมรี่ เป็นครั้งแรก จุดหมายปลายทางอยู่ที่ MORACEA by KHAO LAK RESORT ซึ่งห่างออกไป 82 กม. เส้นทางหลวงหมายเลข 4 มีโค้งซ้าย-ขวา สลับขึ้นลงเขา ผู้เขียนปรับเบาะและตำแหน่งพวงมาลัยที่เป็นแบบไฟฟ้าทั้งหมดได้จนลงตัวกับสรีระ แค่รู้สึกส่วนตัวว่าพวงมาลัยใหญ่ไปหน่อย และน่าจะเป็นแบบ D shave ตำแหน่งปุ่มบนพวงมาลัยแทบไม่ได้ใช้งานเพราะหลังจากเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Apple Car Play wireless เล่นเพลงจาก Spotify ให้คลอเบาๆ เพียงเพื่อเช็คการทำงานที่เชื่อมต่อได้เร็วและง่าย ด้วยเวลาที่จำกัดจึงโฟกัสอยู่กับการขับเป็นลำดับสำคัญ ด้วยความคุ้นเคยกับการขับเครื่องยนต์ไฮบริดของโตโยต้าอยู่แล้วเทียบกับโคโรล่า ครอส HEV ที่ใช้งานประจำอยู่ ด้วยระยะทางเกือบ 90 กม. พอสรุปได้ดังนี้ โหมด ECO ธรรมดา และ SPORT ทำงานหน่วงมาก-น้อยเหมือนกัน มีความต่างกันชัดเจน โหมดธรรมดาคือ โหมดหลักที่ตอบสนองได้รอบด้าน ในทริปนี้ก็เช่นกัน โหมด SPORT แทบไม่มีความจำเป็นเว้นแต่อยากสนุกบนถนนโล่ง หรือทางโค้งความเร็วสูงต่อเนื่อง ส่วนโหมด ECO ลองสั้นๆ เพื่อเน้นลองการรีเจนฯ การทำความเร็วของคัมรี่ใหม่ให้พลังที่ดีจนไม่ต้องร้องขออะไรเพิ่มอีก การเข้าโค้งนิ่งและนิ่ง ตัวรถ ท้ายรถ ไม่มีอาการให้แก้หรือกังวลเลย แม้จะเข้าด้วยความเร็วเกิน 100 กม./ชม. ก็ตาม บางจังหวะพอมีเสียงยาง (ฺบริดสโตน ทูรันซ่า 235/45-18) ครางเบาๆ ให้ได้ยินบ้าง การเร่งความเร็วออกจากโค้งด้วยแรงเสริมจากมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้รถดีดออกจากโค้งได้อย่างฉับไว และด้วยการเซ็ตติ้งช่วงล่างใหม่ ตลอดจนระบบช่วยเหลือก็ทำให้ขับได้สนุกและมั่นใจมากขึ่้นเรื่อยๆ ทุกระยะที่ผ่านไป ระบบเบรกที่มีการปรับปรุงใหม่โดยเฉพาะ EBD ที่กระจายแรงเบรกระหว่างล้อกันใหม่ ก็ทำให้การชะลอเบาก่อนเข้าโค้งหรือเบรกฉุกเฉินทำได้เป็นธรรมชาตมากขึ้น ขับไปจนจบไม่ได้มีการเบาเลี้ยงความเร็วเพื่อปั้นตัวเลขประหยัดน้ำมันแต่อย่างใด ตัวเลขหลังจบระยะนี้ยังคงอยู่ระดับ 18 กม./ลิตร 


ช่วงสุดท้ายเป็นการขับเข้าสู่จังหวัดภูเก็ต ปลายทางหาดกมลา เพื่อหาจุดบันทึกภาพกับตัวรถ ผู้เขียนสลับมานั่งเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับระยะเบาะด้วยไฟฟ้า จนเหยียดขาได้สบาย และมีเวลาสังเกตุรายละเอียดภายในได้มากขึ้นพบว่า จุดวางแก้วด้านหน้ามีแค่ตรงกลาง 2 ตำแหน่ง และช่องแผงข้างประตูแคบใส่ของได้จำกัด รวมทั้งหยิบออกไม่คล่องเท่าไหร่ หน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้วยาวใหญ่ชัดเจน เมื่อแสดงผลกูเกิ้ลแมพก็เต็มจอและครบถ้วน ริมหน้าขอยังเหลือปุ่มหมุนปรับระดับเสียงเอาไว้ เหมือนอนาล็อกผสม แต่จริงๆ ใช้งานง่ายและคล่องกว่าสัมผัสด้วยซ้ำ ปุ่มแอร์ ปุ่มกดโหมด ถูกจัดวางเป็นจุดเรียบร้อยเน้นมินิมอลไม่ใหญ่โตเปลืองเนื่้อที่ ช่องแอร์กลางด้านหน้าดูเหมือนเล็กถ้ามองผ่านๆ แต่จริงๆ ขนาดปกติแค่โดยคาดกรอบเล็กตัดไว้เหมือนใส่หน้ากากครึ่งเดียวเพื่อให้รับกับแนวเส้นคอนโซล สุดท้ายเบาะหลังและหน้าในตำแหน่งผู้โดยสารนั่งแล้วจมเหมือนไม่อยากให้ลุก จุดนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัว เมื่อสิ้นสุดการขับถึงที่หมายกับระยะทางรวมเกือบ 300 กม.  อัตราสิ้นเปลืองขยับดีขึ้นเพราะเป็นการขับในเมืองผสมมากขึ้นตัวเลขจึงได้ที่ 19 กม./ลิตร นับว่าน่าพอใจกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ไฮบริด ก็นับว่าเป็นรถซีดานขนาดกลางที่ให้สมรรถนะโดยรวมดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน ตลอดจนมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยดูสปอร์ตกว่าที่เคย ภายในดูคอมแพคทันสมัย เหมาะกับคนเจเนอเรชั่นใหม่ที่ก้าวขึ้นมามองหารถคลาสนี้เป็นรถคู่ใจ

ออล-นิว โตโยต้า คัมรี่ มีไฮไลท์ของตัวรถที่ผู้ใช้สัมผัสได้จริงก็คือ
อัตราเร่งดีทั้งช่วงออกตัวและเร่งแซง ประหยัดน้ำมัน
ระยะเบรกสั้น เบรกได้อย่างมั่นใจ
ห้องโดยสารเงียบ
ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล
ปลอดภัยยิ่งขึ้นกับระบบ TSS รุ่นใหม่
วางใจได้กับบริการหลังการขาย ด้วยศูนย์บริการกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ด้านระบบไฮบริด และมาตรฐานความพร้อมด้านอะไหล่ครบครัน

ALL-NEW CAMRY เจเนอเรชั่นที่ 9 มากับ 3 รุ่นย่อย สีภายนอก 4 สี และสีภายใน 2 สี
HEV PREMIUM LUXURY ราคา 1,809,000 บาท สำหรับราคาในช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 1,789,000 บาท
HEV PREMIUM ราคา 1,659,000 บาท สำหรับราคาในช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 1,639,000 บาท
HEV SMART ราคา 1,475,000 บาท สำหรับราคาในช่วงเปิดตัวอยู่ที่ 1,455,000 บาท